สะกดรอยก่อนสกัดจับแก๊งยานรกขนยาบ้าเลาะชายแดนเชียงรายเกือบล้านเม็ด

เชียงราย – จนท.หลายหน่วยงานผนึกกำลังแกะรอยก่อนสกัดจับคู่หูชาวเชียงราย บึ่งกระบะขนยาบ้าเกือบล้านเม็ดเลาะชายแดนเชียงราย พร้อมเร่งเค้นสอบ-ล่าเครือข่าย หลังการข่าวชี้ชัดมีรถนำทางอีกหลายคันร่วมก๊วนขนยานรกส่งอยุธยาฯ

วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.ท.ถนัด ชุ่มมะโน - พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาน รอง ผกก.สส.ภ.5 , พ.ต.ท.ชีวะ ยาท้วม สวป.,พ.ต.ท.พีพจน์ ธุระกิจ สว.สส.,พ.ต.ต.เกรียงศักดิ์ มณีจันทร์สุข สวป.,พร้อมด้วยกำลังชุดสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ บช.ภ.5 ร่วมกับ พ.ต.อ.ถนัด พลพาณิช ผกก.สภ.เชียงของ จ.เชียงราย กระจายกำลังกันออกติดตามค้นหาบวนการค้ายาเสพติด

หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำของกลางยาเสพติดจำนวนมากจากแหล่งผลิตอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านชายแดนไทย-เมียนมา , ชายแดนไทย-ลาว เข้ามาทางพื้นที่ อ.เชียงของ

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง เป็นกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 1606 พะเยา จึงสะกดรอยตามตั้งแต่พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ลัดเลาะชายแดนไปตามถนนสายต่างๆ จนถึงบริเวณถนนเขตหมู่บ้านนาน้อย หมู่ 11 ต.เวียง อ.เชียงของ จึงเข้าสกัดรถ และประสานทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย , ทหารพรานร้อย ทพ.3101 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ร่วมกันตรวจสอบ

ผลการตรวจพบคนในรถทั้ง 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายคชพล แซ่ว่าง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 12 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย , นายยุทธนา ทรงศักดิ์ลือชัย อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 128 หมู่ 11 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

และเมื่อตรวจสอบบริเวณขอบฝาด้านในลำโพงของรถ พบมีการทำเป็นช่องด้านข้างเอาไว้ และภายในซุกซ่อนห่อยาบ้าจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมียาบ้าซุกซ่อนตรงช่องว่างขอบกระบะด้านในด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจนับพบมีทั้งหมด 481 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าทั้งหมด 962,000 เม็ด

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวนายคชพล และนายยุทธนา พร้อมของกลางทั้งหมดเอาไว้ จากนั้นนำตัวส่ง สภ.เชียงของ เพื่อขยายผลไปยังเครือข่าย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของกลุ่มมูเซอยี่เซ ที่มีอิทธิพลอยู่ฝั่งตรงกันข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง โดยมีรายงานว่าอาจมีมากถึงนับล้านเม็ด และมีการใช้รถยนต์ 2-3 คัน ในการขับนำทางและขน เมื่อถึงพื้นที่ อ.เชียงของ ได้มีการนำของกลางไปซุกซ่อนไว้ ก่อนใช้รถยนต์คันอื่นที่อาจเคยเป็นรถนำทาง ขนลำเลียงยาเสพติดต่อ เพื่อนำไปส่งเครือข่ายใน จ.พระนครศรีอยุธยา แลกกับค่าจ้าง 400,000 บาท กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามไปทันจึงได้ทำการสกัดจับได้ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม และดำเนินการขยายผลตามกฎหมายต่อไป.