ศูนย์ข่าวศรีราชา - การรถไฟฯ เตรียมเวนคืนที่ดิน อ.ศรีราชาก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายชุมทางศรีราชา –ระยอง เสนอ 4 เส้นทางเลือก เน้นส่งเสริมการขนส่งภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก พบแนวเส้นทางผ่านกลางชุมชนหลายจุด แต่ผู้ได้รับกระทบไม่ได้เข้าร่วมฟัง
วันนี้ ( 6 มิ.ย. ) นายสายชล เชาว์ไทย รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง เป็นประธานเปิดการประชุมย่อยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชุมทางศรีราชา-ระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในการพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไร้รอยต่อ โดยมี นายนายธีรวิทย์ สุภาทิพย์ วิศวกรโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทที่ปรึกษา มานำเสนอโครงการให้กับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและประชาชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 4 เทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
นายธีรวิทย์ สุภาทิพย์ วิศวกรโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวในที่ประชุมว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายชุมทางศรีราชา –ระยอง และมาบตาพุด ระยอง จันทบุรี ตราด และคลองใหญ่ เป็นทางรถไฟสายใหม่เพื่อรองรับการเชื่อมโยงกับการขนส่งรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางและเครือข่ายโลจิสติกส์ ส่งเสริมการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ ประหยัดต้นทุนการขนส่งของประเทศในภาพรวม สอดรับกับการพัฒนา EEC ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
โดยจุดเริ่มต้นโครงการที่สถานีชุมทางศรีราชา ไปถึงจังหวัดระยอง โดยมีเส้นทางการศึกษาไว้ 4 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 เริ่มจากชุมทางศรีราชาประมาณ 1.8 กิโลเมตร เลี้ยวขึ้นไปทางทิศเหนือของวัดบ่อหินห่างจากวัดประมาณ 300 เมตร เริ่มทางยกระดับบริเวณจุดที่ตัดหมู่บ้านแกรนมณีรินทร์ศรีราชา ก่อนตัดห่างโรงเรียนวัดหนองขามทางด้านทิศเหนือประมาณ 50 เมตร แล้วตัดข้าสาย 7 บริเวณด่านเก็บเงินหนองขามบริเวณร้านโบว์ทิพย์ของฝาก
ก่อนข้ามไปตัดพื้นที่บริเวณลานจอดรถเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ข้ามถนนสาย 331 (อินโดจีน)มีสถานีอยู่บริเวณคลองใหญ่ ผ่านดอนนุ่น ผ่านคลองหนองปรือ ผ่านใกล้สุสานสิงโตคู่ ผ่านนิคมอุตสาหกรรม WHA ทางทิศเหนือ ก่อนตัดทางหลวง 331 พนมสารคามบริเวณทางเข้านิคมโรจนะบ่อวิน จ.ชลบุรี ตัดทางด้านทิศเหนือของบ้านพันเสด็จใน ห่างจากโรงเรียนบ้านพันเสด็จในทางทิศเหนือประมาณ 900 เมตร จนเข้าสู่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
เส้นทางที่ 2 จากชุมทางศรีราชาประมาณ 1.8 กิโลเมตร เลี้ยวขึ้นไปทางทิศเหนือของวัดบ่อหินห่างจากวัดประมาณ 300 เมตร เริ่มทางยกระดับบริเวณจุดที่ตัดหมู่บ้านแกรนมณีรินทร์ศรีราชา ก่อนตัดห่างโรงเรียนวัดหนองขามทางด้านทิศเหนือประมาณ 50 เมตร แล้วตัดข้าสาย 7 บริเวณด่านเก็บเงินหนองขามบริเวณร้านโบว์ทิพย์ของฝาก ก่อนข้ามไปตัดพื้นที่บริเวณลานจอดรถเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ข้ามถนนสาย 331 (อินโดจีน)
ตัดลงมาทางทิศใต้มาทางหนองปรือ ผ่านโรงเรียนบ้านวังค้อ คลองบึง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบึง ตัดผ่านทางด้านทิศเหนือของสนามบูรพากอล์ฟ คลับ หมู่บ้านพนาวัลย์เพลส หมู่บ้านสิลันตา ไลฟ์ 4 ผ่านทางทิศเหนือของอนามัยตำบลบ่อวิน ก่อนมาตัดเส้น 331 บริเวณอีซูซุตะวันออกชลบุรี สาขาบ่อวิน ทางทิศเหนือ ตัดเข้าชุมชนสะพานสี่ ตลาดสะพานสี่พลาซ่า ผ่านฝั่งตรงข้ามวัดมาบยางพร เข้าสู่จังหวัดระยอง
เส้นทางที่ 3 เริ่มจากชุมทางศรีราชาไปตามเส้นรถไฟสายเก่าไปตัดออกก่อนถึงสถานีชุมทางบางละมุง แล้วไปเชื่อมต่อกับแนวที่สองบริเวณสนามกอล์ฟบูรพา ผ่านหมู่บ้านพนาวัลย์เพลส หมู่บ้านสิลันตา ไลฟ์ 4 ผ่านทางทิศเหนือของอนามัยตำบลบ่อวิน ก่อนมาตัดเส้น 331 บริเวณอีซูซุตะวันออกชลบุรี สาขาบ่อวิน ทางทิศเหนือ ตัดเข้าชุมชนสะพานสี่ ตลาดสะพานสี่พลาซ่า ผ่านฝั่งตรงข้ามวัดมาบยางพร เข้าสู่จังหวัดระยอง
เส้นทางที่ 4 เริ่มจากชุมทางศรีราชาไปตามเส้นรถไฟสายเก่าไปตัดออกก่อนถึงสถานีชุมทางบางละมุง ตัดมาทางตะเคียนเตี้ย ผ่านทิศใต้นิคมโรจนะ ข้ามสาย 7 ผ่านบ้านลินดา ผ่านสำนักสงฆ์เมืองจันทร์สุดา ผ่านทางทิศใต้สนามกอล์ฟแหลมฉบัง คันทรี่คลับ ไปทางทิศเหนือของวัดเขาโป่งสะเก็ดพุฒาจารย์ ผ่านเส้น 331 พนมสารคามบริเวณหมู่บ้านชาญสโมสร จนทะลุไปจังหวัดระยอง
ซึ่งเส้นทางทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางการศึกษาถึงความเหมาะสมสามารถขยับไปซ้ายไปขวาได้ และจะสรุปเส้นทางที่ชัดเจนอีกครั้งประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเส้นทางศึกษาทั้ง 4 เส้นทาง นี้ จะต้องมีการเวนคืนที่ดินขนาดกว้างประมาณ 50 เมตรด้วย ซึ่งแต่ละจุดนั้นได้ผ่านกลางชุมชนและหมู่บ้านหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ต่างเห็นด้วยกับโครงการของรัฐที่จะพัฒนาความเจริญให้กับพื้นที่นี้ แต่อยากให้การรถไฟทำเส้นทางรถยนต์คู่ขนานทั้งสองฝั่งเส้นทางรถไฟควบคู่ไปด้วยพร้อมกัน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำ น้ำท่วม กับชาวบ้านที่อยู่ริมทางรถไฟ เนื่องจากไม่มีท่อระบายน้ำ เส้นทางรถไฟอาจไปขวางทางน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมได้
รวมทั้งอยากให้สอบถามความเห็นของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในการก่อสร้างครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะโครงการนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาชนในพื้นที่ แต่เป็นภาคอุตสาหกรรม และอยากให้จัดประชุมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เนื่องจากในวันนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นประชาชนในเขตเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ แต่กลับมาจัดที่เทศบาลนครแหลมฉบัง ซึ่งแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย