xs
xsm
sm
md
lg

ทนายดังนำทีมขอความเป็นธรรม ชี้ป่าไม้ท่าวังผาจับคนรุกป่าต้องประกันตัวเป็นแสน ทั้งที่ทำกินมา 3 ชั่วอายุคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น่าน - อดีต ส.ว. ทนายดังเมืองน่าน นำชาวบ้านขอความเป็นธรรม หลังป่าไม้จับฐานรุกป่าทั้งที่อยู่ทำกินมา 3 ชั่วอายุคน กว่า 70 ปี แถมเคยแบ่งบริจาคทำศูนย์เด็กเล็ก-ที่สาธารณะ เหลือแค่ไร่เศษ เชื่อโดนแกล้งหลังมีคนขอซื้อทำป่าช้าแล้วไม่ขาย



วันนี้ (6 มิ.ย.) นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาน่าน และผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมายสันติภาพทนายความ เป็นตัวแทนนำนายบรรพต เหลืองตรงกิจ อายุ 65 ปี และชาวบ้านน้ำกิ หมู่ 5 ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา กว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.สัณห์ ล้านมา รอง ผกก.ปป.สภ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อติดตามคดีกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าจับกุมนายบรรพต และภรรยา ในความผิดบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ เข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องใช้เงิน 1 แสนบาทประกันตัวออกมา ทั้งที่ทำกินในที่ดินมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมา 3 ชั่วอายุคน มากกว่า 70 ปีมาแล้ว

นายบรรพตเล่าว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา ขณะกำลังขุดหลุมฝังเสาปูนเตรียมทำรั้วรอบสวนอยู่ ได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 4 คนเข้ามาจับกุม โดยแจ้งว่ามีผู้แจ้งเหตุว่าตนบุกรุกที่ป่าช้าของหมู่บ้านน้ำกิ ตนก็ได้ชี้แจงว่าที่ผืนนี้ได้รับมรดกตกทอดมาทำกินตั้งแต่ปี 2495 เดิมมี 4 ไร่ แต่ได้บริจาคให้หมู่บ้านทำศูนย์เด็กเล็ก และแบ่งให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์บางส่วน เหลือไว้ทำกิน 1 ไร่เศษ แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ เนื่องจากรัฐจดทะเบียนเป็นป่าสงวนฯ ตั้งแต่ปี 2531 และตนได้ยกให้ลูกชายซึ่งนำขึ้นสมุดทะเบียนเกษตรกรแล้ว ยืนยันไม่ใช่การผู้บุกรุกใหม่ แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ฟังเหตุผล นำตัวไปถ่ายภาพคู่กับที่ดิน และต้นไม้ในสวน พร้อมแจ้งจับส่งดำเนินคดี ทางครอบครัวต้องนำเงินจำนวน 1 แสนบาทประกันตัวออกมา สร้างความกังวลและขวัญเสียมากต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่

ด้าน น.ส.อุบล เหลืองตรงกิจ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/1 ม.3 ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา ลูกสาวนายบรรพต กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ผ่านมามีคนในหมู่บ้านมาถามซื้อเพื่อจะนำไปทำป่าช้าซึ่งได้ปฏิเสธไป เนื่องจากได้บริจาคเพื่อทำศูนย์เด็กเล็ก และใช้ประโยชน์อื่นๆ แล้ว จึงเกิดความไม่พอใจกลั่นแกล้งแจ้งจับกัน แต่การเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทางครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก เพราะหากที่ดินผืนนี้ของครอบครัวถือว่าบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติก็คงต้องถูกจับดำเนินคดีทั้งหมู่บ้าน

ด้าน พ.ต.ท.สัณห์ ล้านมา รอง ผกก.ปป.สภ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า หลังจากรับเรื่องแล้วได้นำเรื่องเข้าประชุมกับผู้บังคับบัญชาเพื่อหาแนวทางสืบสวนสอบสวน โดยจะเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งพระสงฆ์ และชาวบ้านในหมู่บ้านน้ำกิ เพื่อรวมรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวนคดี

ล่าสุดนายบรรพต เหลืองตรงกิจ ผู้ถูกกล่าวหาได้นำใบการเสียภาษีค่าที่ดินที่ชำระกับ อปท.นำมาแสดงและใช้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่าได้อยู่อาศัยและทำกินในที่ดินอย่างถูกต้อง ไม่ได้มีเจตนาในการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวน ถ้าหลักฐานทั้งหมดที่ประกอบในสำนวนคดีชี้ชัดว่านายบรรพตได้อยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวก่อนมีการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ และไม่มีเจตนาในการบุกรุกป่าตามที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษก็จะมีความเห็นไม่สั่งฟ้องต่อไป

นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ อดีต ส.ว.น่าน และ ผอ.สำนักงานกฎหมายสันติภาพทนายความ กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เห็นว่าชัดว่าเกิดจากการกลั่นแกล้งกันในชุมชน และเจ้าหน้าที่ขาดดุลพินิจในการจับกุม ตนต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ปัญหาในระดับจังหวัด เนื่องจากชาวบ้านในจังหวัดน่านส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับป่า และมีกรณีพิพาทลักษณะนี้บ่อยครั้ง พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาการให้เช่าที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง ให้ผู้มีอำนาจทั้งคณะรัฐบาลใหม่ และอธิบดีกรมป่าไม้ พิจารณานำใช้เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้รวดเร็วและชัดเจนที่สุด

ด้านหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นน.4 ท่าวังผา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยตรวจสอบจากแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศ ก่อนเข้าจับกุม รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งคดีให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าวังผา เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น