ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สสจ.เชียงใหม่ เผยพบประชาชนใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาดและผิดวิธีจนเกิดผลข้างเคียง ต้องหามส่ง รพ.รักษาแทบทุกวัน เตือนยังไม่ถูกกฎหมายและโดยทั่วไปไม่ทราบแหล่งที่มาต้องระวังการใช้
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจ อปพร.เมืองเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวผ่านโลกโซเชียลว่าได้มีผู้ป่วยอาการใจสั่นจากการใช้น้ำมันกัญชาเกินนขนาด จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ นอกจากนี้ ที่ผ่านมามีเคสดังกล่าวประมาณ 3-4 เคส ที่มีการใช้น้ำมันกัญชารักษาโรค และมีอาการใจสั่นจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยการโพสต์ดังกล่าวเพื่อเป็นการเตือนใจผู้ใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาโรค
นายมโนรมภ์ สินธพอาชากุล หัวหน้ากลุ่มงานแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของการนำน้ำมันกัญชา มาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ตามความเชื่อของชาวบ้าน
ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ขอแจ้งว่า ขณะนี้ยังไม่เคยมีการอนุญาตให้นำกัญชาหรือน้ำมันกัญชามาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ การใช้น้ำมันกัญชาในปัจจุบันเป็นการแอบซื้อมาใช้โดยไม่ทราบแหล่งที่มา และไม่ทราบว่าใช้กัญชาในการผลิตมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ประชาชนนำไปใช้ก็จะทำให้เกิดผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้น้ำมันกัญชา จนเกิดอาการความดันต่ำ หน้ามืด อาการใจสั่น อาการคลุ้มคลั่ง จนต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบทั่วทุกประเทศ จากสถิติแล้วมีแทบจะทุกวัน ซึ่งการรักษาเราจะต้องรักษาแบบประคับประคองจนอาการดีขึ้นต้องใช้เวลานานหลายวัน แต่โชคยังดีที่ในปัจจุบันเรายังไม่พบการเสียชีวิตจากการใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาด โดยในปัจจุบันทางกระทรวงสาธารณสุขยังไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหามาใช้กันเองโดยไม่มีการปรึกษาแพทย์
สำหรับน้ำมันกัญชาเป็นการวิจัยของต่างชาติโดยเฉพาะในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ที่มีการผลิตน้ำมันกัญชาอย่างมีมาตรฐาน แต่ในประเทศไทยนั้นมีหลายสูตร หลายการผลิต ส่วนใหญ่หามาจากในอินเทอร์เน็ต จึงทำให้การผลิตแตกต่างกันซึ่งขาดมาตรฐาน และในปัจจุบันการทำน้ำมันกัญชายังไม่ได้รับรองจากสูตรตำหรับจากกระทรวงสาธารณสุข ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยร่วมกับองค์การเภสัชกรรมเพื่อให้มีมาตรฐานและปลอดภัย จึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าจริงๆ แล้วกัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ ไม่สามารถรักษาได้ทุกโรค
ดังนั้นจึงไม่อยากที่จะให้ประชาชนนำน้ำมันกัญชามาใช้ เนื่องจากในปัจจุบันเราไม่สามารถทราบแหล่งที่มาของน้ำมันกัญชาเหล่านี้ และไม่ทราบว่าใช้กัญชาในการผลิตมากน้อยแค่ไหน อาจจะเสี่ยงที่ทำให้เกิดผลค้างเคียง อีกทั้งน้ำมันกัญชายังถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เพราะกัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยผู้นำเข้า ผลิต หรือส่งออกจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-1,500,000 บาท หากครอบครองจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย