xs
xsm
sm
md
lg

พรุ่งนี้รู้เลย!! ใครเจ้าของหวย 30 ล้าน ปรีชา หรือ จรูญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาญจนบุรี - พรุ่งนี้ ศาลกาญจน์ตัดสินคดีหวย 30 ล้านบาท ครูปรีชา ตระเวนไหว้พระ ยืนยันลอตเตอรี่เป็นของตัวเอง 100% ส่วนผลจะออกมาอย่างไร พร้อมน้อมรับ และหากศาลยกฟ้อง ก็จะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป

คดีหวย 30 ล้านอลเวง ที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท และในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดฟังคำพิพากษา ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและต่างเฝ้าติดตามบทสรุปของคดีกันอย่างใจจดใจจ่อ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา พร้อมด้วยเพื่อนครูได้เดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือวัดใต้ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีกองทัพสื่อมวลชนหลายสำนักไปรอทำข่าวเป็นจำนวนมาก และเมื่อนายปรีชา เดินไปถึงวัดได้มีสื่อมวลชนกรูเข้าไปเพื่อขอสัมภาษณ์ โดย นายปรีชา สวมหมวก และสวมเสื้อสีเหลือง มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตามสไตล์ ซึ่งเมื่อเห็นสื่อมวลชนได้บอกว่ามั่นใจชนะอยู่แล้ว

นายปรีชา กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกคนที่ติดตามเรื่องของคดีหวย 30 ล้าน มาโดยตลอด และขอให้รอฟังคำพิพากษาของศาลในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.62) และเป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 ฝ่ายด้วย ส่วนหลักฐานของเราที่ใช้ต่อสู้ในชั้นศาลเป็นประจักษ์พยานทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเอกสารต่างๆ แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียดเนื่องจากศาลมีข้อกำหนดห้ามนำมาเผยแพร่

สำหรับวันพรุ่งนี้ที่ศาลจะตัดสินคดีนี้ ตนเองมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ความจริงคือความจริง เราคือเจ้าของหวยตัวจริง ตนซื้อจริง และหายไปจริง โดยซื้อจาก นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ซึ่งมีพยานบุคคลที่เห็นหลายคน แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เนื่องจากศาลมีข้อกำหนดไว้ ซึ่งเราซื้อจริง โดยสั่งจองไว้ก่อนจากนั้นก็เดินทางไปรับด้วยตนเองจริง ส่วนของรายละเอียดเหตุการณ์ในวันนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนแล้ว ดังนั้นไม่อาจก้าวล่วงได้ ต้องรอให้ศาลตัดสินก่อน แล้วจะแจ้งให้ทราบ

ทั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ส่วนกรณีที่มีการพูดตำหนิติเตียนตนผ่านทางช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะโลกโซเชียล ตนเองก็ขออโหสิกรรมให้ทุกคน และขอให้รอฟังคำตัดสินของศาล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะปรากฏแล้ว เพราะความจริงคือความจริง ทั้งนี้หากศาลตัดสินอย่างไร ตนก็พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล และเราจะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการไปไหว้สถานที่ต่างๆ ไม่ได้มีนัยยะอะไร เป็นปกติที่ในวันหยุดตนและครอบครัวจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรและทำบุญที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ ซึ่งตนให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่เด็ก โดยขอสิ่งที่เป็นมงคล และสิ่งที่เป็นสิ่งที่ดีงามให้กับชีวิตตนเอง ส่วนการเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวกาญจนบุรี เนื่องจากในวันพรุ่งนี้เป็นวันที่เราขึ้นศาล ซึ่งเราก็ไม่เคยมีคดีความใดๆ มาก่อน แต่เมื่อมีแล้วเราก็ไปเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตตัวเอง

ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาเราในฐานะครูสอนวิชาหลักพระพุทธศาสนา ได้นำหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ พระองค์เคยตรัสไว้ว่ามนุษย์และสัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม กรรมคือการกระทำ ใครทำกรรมอย่างไรก็ต้องได้รับกรรมอย่างนั้น รวมถึงให้มองตนเองว่า ตนเองดีหรือยัง พร้อมหรือยัง เมื่อมองแล้วพร้อมแล้วทำแล้ว เราตัดสินใจแล้ว นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ตนไม่โกงใคร เราเพียงเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายในทรัพย์ที่เราทำตกหายเท่านั้น

“ส่วนที่ผ่านมาสังคมมองเราค่อนข้างไปในทางลบ ตนเองไม่ว่าอะไร เป็นสิทธิการคิด ใครจะคิดอย่างไรก็ได้ ไม่ผิด แต่ขอให้ทบทวนวิเคราะห์ให้ดีเสียก่อนถึงจะตำหนิใคร แต่ขอให้รอศาลตัดสินก่อนจะดีกว่า ส่วนบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันพรุ่งนี้ตามที่ ทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของตนพูดไว้ ต้องไปถาม ทนายวรยุทธ เพราะตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย” ครูปรีชา กล่าวทิ้งท้าย ก่อนขอตัวไปทำบุญไหว้พระ

ล่าสุด ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมครอบครัว และ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เปิดบ้านเพื่อให้สื่อมวลชนได้ซักถามก่อนจะมีการแถลงของศาลในวันที่ 4 มิ.ย. 2562 นี้ ที่หมู่บ้านศิริชัย ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

โดยทนายตั้ม เผยว่ามั่นใจมาก จนไม่คิดว่าจะแพ้ เพราะฝ่ายตรงข้าม ใช้พยานบุคคลที่เลื่อนลอย ไม่ประติดประต่อก็เพราะไม่ใช่ความจริง และหากเป็นไปตามคาด จะเร่งนำคำวินิจฉัย ไปยื่นต่อศาลให้พิจารณา ถอนอายัดเงินรางวัล ที่เหลืออยู่ประมาณ 25 ล้านบาท แต่หากอีกฝ่าย ยื่นอุทธรณ์ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

หากชนะคดี จะฟ้องกลับหรือไม่ ก็บอกว่าความจริง มียื่นฟ้องฝ่ายตรงข้ามฐานเบิกความเท็จอยู่แล้ว แต่ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอผลการวิจัย จากคดีหลักที่จะตัดสินพรุ่งนี้ แต่หลังฟังคำตัดสินจะปรึกษาหมวดจรูญอีกครั้ง ว่าจะฟ้องต่อไป หรือถอนฟ้อง เพราะความจริงก็อยากให้จบเรื่องราว ไม่อยากค้าความต่อ ถ้าครูปรีชา สำนึกผิด แต่ถ้าครูปรีชายังยื่นอุทธรณ์ ก็อาจดำเนินการฟ้องกลับเหมือนเดิม

นอกจากนี้ ทนายตั้ม ยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลังศาลสืบพยานเสร็จสิ้น ครูปรีชา ได้ติดต่อ มาทางทนายอาคม คงสวัสดิ์ เครือข่ายเดียวกันกับทนายตั้ม บอกว่าอยากให้หาทางจบเรื่องนี้ รวมถึงพ่อครูปรีชา ก็ติดต่อมาทางทนายอาคม ขอเจรจา ช่วยกันหาทางออกเรื่องนี้เช่นกัน แต่ครูปรีชาก็ไม่ได้ยอมรับผิดอะไร ทนายตั้มเลยตัดสินใจ ไม่เจรจาด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น