ระยอง - เอสซีจี ร่วมชาวบ้านชากพง อ.แกลง จ.ระยอง พลิกวิกฤตคลองลาวน แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนหลังประสบเหตุสัตว์น้ำลอยตายเกลื่อน วิถีประมงพื้นบ้านที่เปลี่ยนสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชูจุดขายความงามป่าโกงกาง 2 ฝั่งคลองคู่แหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรม
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบุรี สำเร็จ ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ว่า พบปลาตายเกลื่อนคลองลาวน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรม รวมทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนในพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าแก้ไขเป็นการด่วนเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านในพื้นที่นั้น
ล่าสุด วันนี้ (2 มิ.ย.) นายเจริญ เมตตา ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กคลองลาวน พร้อมด้วย นายสำออย รัตนวิจิตร นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง นายอุทัย อังคะวาที และนายบุรี สำเร็จ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน ได้นำ นายสมชาย หงส์สุวรรณ ผู้จัดการเพื่อสังคมธุรกิจเคมิคอล และเจ้าหน้าที่บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน) ล่องแพสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คลองลาวน เพื่อเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างเต็มตัว
นายเจริญ บอกว่าบริเวณ 2 ฝั่งคลองดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นกวาดดอกแดง ดอกขาว ต้นลำพู และต้นกะบูน และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำออกสู่บริเวณปากคลองลาวนติดชายทะเล และเป็นแหล่งเพาะเชื้อหอยนางรมที่มีชื่อเสียงของชาว ต.ชากพง มาหลายชั่วอายุคน แต่ปัจจุบันวิถีอาชีพเพาะเชื้อหอยนางรม กลับเป็นอาชีพต้องห้ามและผู้ที่เก็บนำไปขายต้องหลบๆ ซ่อนๆ
“เมื่อวิถีชีวิตชาวคลองลาวน เกิดวิกฤตหลังมีเหตุสัตว์น้ำลอยตายเกลื่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ และการเพาะเลี้ยงหอยนางรมยังต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เมื่อจะเก็บขาย ก็จำต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เนื่องจากคลองลาวน มีระยะทางจากสะพานคลองลาวนเหนือ ขึ้นไปประมาณ 5 กิโลเมตร และตลอดเส้นทางยังมีโค้งกว่า 10 โค้งที่มีความสวยงาม จนชาวบ้านเรียกชื่อโค้งต่างๆ เช่น คุ้งตาหร่อง คุ้งวังกุ้ง คุ้งตาเลียด คุ้งหนองขาว”
นายเจริญ ยังบอกอีกว่า บริเวณ 2 ฝั่งคลองลาวน นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำตามรากต้นกะบูน และต้นโกงกางแล้ว ในช่วงเดือน ธ.ค.ของทุกปี ยังจะมีหิ่งห้อยเข้ามาอาศัยบริเวณต้นลำพู ขณะนี้บริเวณระยะทางออกสู่ปากคลองลงทะเลอีก 3 กิโลเมตร ยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อหอยนางรมอีกด้วย
ด้าน นายสมชาย หงส์สุวรรณ ผู้จัดการเพื่อสังคมธุรกิจเคมิคอล บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เอสซีจี ได้สนับสนุนโครงการบ้านปลากลุ่มประมงคลองลาวน เพื่อให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำไปแล้ว และขณะนี้ยังจะทำโครงการต่อเนื่อง คือ การช่วยชาวบ้านผลักดันให้คลองลาวน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างรายได้และสนับสนุนการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ว่างให้แก่ชาวบ้าน
“โดยจากนี้จะให้กลุ่มประมงคลองลาวน จัดทำแผนโครงการอย่างละเอียด ทั้งเรื่องการดูแลความสะอาดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และการรณรงค์ไม่ใช้ถุง ขวดพลาสติก และโฟมโดยเด็ดขาด เพื่อที่บริษัทจะได้ผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป” นายสมชาย กล่าว
