อุบลราชธานี - หนุ่มเซลส์แมนมือถือได้รับใบสั่งให้จ่ายค่าปรับขับรถเร็วจากตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ทั้งที่ไม่เคยไปจังหวัดนี้มาก่อน เมื่อตรวจสอบป้ายทะเบียนเป็นเลขเดียวกันแต่รถคนละคัน หวั่นถูกสวมทะเบียนนำรถไปใช้ผิดกฏหมาย วอนตรวจสอบด่วน
วันนี้ (2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายจักรี กุลเกษ อายุ 25 ปี เซลส์ขายมือถือ พักอยู่บ้านขามใหญ่ ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ว่าได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์จากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.บุรีรัมย์ ให้ชำระค่าปรับฐานฝ่าฝืนป้ายจำกัดความเร็ว และขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เหตุเกิดที่กิโลเมตรที่ 107-109 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562 เวลา 16.38 น.
นายจักรีเล่าว่า ทะเบียนรถที่ระบุมาในใบสั่งคือ ผจ. 9025 อุบลราชธานี เป็นทะเบียนรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ที่ตนใช้อยู่จริง แต่ภาพของรถที่เห็นในใบสั่งเป็นรถกระบะอีซูซุ ออลนิว 4 ประตูสีดำ ซึ่งเป็นคนละคันและเป็นรถรุ่นใหม่กว่าของตน ส่วนป้ายชื่อจังหวัดก็มองเห็นไม่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอุบลราชธานี
เมื่อได้รับใบสั่งทำให้ตนงงมาก เพราะรถคันดังกล่าวตนซื้อมาได้ปีเศษ และเมื่อเดือนก่อนก็นำรถไปต่อทะเบียนกับสำนักงานขนส่งได้ตามปกติ รวมทั้งตนไม่เคยขับรถไปยังจังหวัดบุรีรัมย์มาก่อนเลย
จึงหวั่นวิตกว่าจะมีกลุ่มมิจฉาชีพสวมทะเบียนรถแล้วนำรถไปใช้งานในทางที่ผิดกฎหมาย จึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดบุรีรัมย์ตรวจสอบความชัดเจนของใบสั่งและรถที่ปรากฏในภาพด้วย
เพราะกังวลจะเกิดผลกระทบในการต่อภาษีรถยนต์ในปีหน้า ซึ่งมีประกาศว่าได้มีการเชื่อมต่อระบบระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกรมการขนส่งทางบก หากผู้ครอบครองรถที่มีใบสั่งแล้วไม่ไปชำระค่าปรับก็ไม่สามารถต่อทะเบียนได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบความชัดเจนให้ด้วย
