กาญจนบุรี - เผยยอดเงินบริจาคให้น้องยิ้ว หนุ่มเทคนิคเหยื่อพลุระเบิด ทะลุ 2 ล้านบาทแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการเบิกจ่าย 3 ฝ่าย เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “วนิดา พุฒซ้อน” โพสต์เรื่องราวของ นายจิรพงศ์ ยินดี หรือยิ้ว อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 2 แผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี เกิดอุบัติเหตุพลุระเบิดอาการสาหัส ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ ร.พ.พหลพลพยุหเสนา และแพทย์จำเป็นต้องตัดขา 2 ข้าง รวมทั้งแขนเพื่อรักษาชีวิต หลังใช้วันหยุดออกไปทำงานหารายได้พิเศษ เพื่อมาเป็นค่าเล่าเรียน ซึ่งได้นอนไม่ได้สติมาแล้วถึง 15 วัน จากนั้นมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งพร้อมใจกันบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยเพื่อช่วยเหลือน้องยิ้ว เป็นจำนวนมาก สำหรับบัญชีธนาคารที่เปิดรับบริจาค คือเลขบัญชี 010442513366 ธนาคาร ธกส. สาขา ลาดหญ้า ชื่อ นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นยายของน้องยิ้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
แต่ต่อมาได้มีการดรามาเกิดขึ้น เนื่องจาก พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า การเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นเพราะ นายจิรพงศ์ ยินดี หรือยิ้ว และนายณัฐพงษ์ เซี่ยงว่อง หรือ บูธ อายุ 28 ปี ได้ร่วมกันนำดินปืนจากประทัดลูกบอลที่ใช้สำหรับไล่นก จำนวน 3 ลูก มาใส่ในท่อพลาสติก พีวีซี ขนาด 1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ปิดหัวท้ายด้วยดินและเศษไม้ แล้วต่อสายชนวนออกมาที่ปลายท่อ
จากนั้นนำท่อพีวีซี ที่ดัดแปลงเป็นพลุ ตั้งไว้ที่พื้นดิน แล้วนายจิรพงษ์ ได้ใช้ไฟแช็คจุดชนวน โดยที่นายณัฐพงษ์ ใช้ลำตัวซ้ายนั่งบังกระแสลมเอาไว้ ส่วนน้องยิ้ว นั่งยองเพื่อจุดชนวน ระหว่างจุดชนวนนั้น ได้เกิดระเบิดอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุทำให้นายบูธ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณชายโครงซ้ายเป็นรูพรุน ส่วนน้องยิ้ว ถูกสะเก็ดจากแรงของระเบิดเข้าที่ขาทั้ง 2 ข้างและมือ 1 ข้าง คณะแพทย์ผู้รักษาต้องตัดแขนและขาทิ้ง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งคู่ได้ทำพลุ เพื่อจุดพลุเล่นกันเอง ซึ่งตัวของนายณัฐพงษ์ เซี่ยงว่อง หรือ บูธ ก็ให้การยอมรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ แล้วว่าเป็นความจริง
โดยหลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวดังกล่าวออกไป จึงเกิดกระแสดรามาขึ้น เนื่องจากโลกโซเชียลได้วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา เพราะข้อมูลที่นำไปโพสต์ตั้งแต่ครั้งแรก และข้อมูลข้อเท็จจริงจากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตรงกัน แต่ผู้ที่บริจาคเงินส่วนใหญ่ ไม่ได้ติดใจอะไรและพร้อมที่จะบริจาคเงินช่วยเหลือน้องยิ้ว ด้วยความเต็มใจ แต่ก็มีบางส่วนเป็นห่วงเรื่องการบริหารจัดการเงินที่ได้รับจากการบริจาค เพราะบัญชีธนาคารเป็นชื่อของคุณยายน้องยิ้ว ที่มีอายุมากแล้ว อีกทั้งน้องยิ้วยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู รพ.พหลพลพยุหเสนา และที่ผ่านมามีข่าวลือว่า ยอดเงินในบัญชีนั้นถูกถอนออกไป ทำให้โลกโซเชียลเกิดความสงสัยและแครงใจ ว่าอาจจะมีมือดี นำบัตรเอทีเอ็ม หรือสมุดบัญชีธนาคารไปเบิกเงินออกมาโดยที่คุณยาย เจ้าของบัญชีไม่ทราบมาก่อน อีกทั้งต่อมามีการร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 30 พ.ค.62 หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย น.ส.สโรชา คำแก้ว ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายวรรธนัย ทับทิมศรี เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กาญจนบุรี นายนคร ว่องวณิชชากร นายก อบต.วังด้ง น.ส.อาภัศรา พวงมาลี ผอ.กองสวัสดิการสังคม อบต.วังด้ง นางวนิดา พุฒซ้อน กำนันตำบลวังด้ง และนายจิรวัฒน์ เฉลิมธนกิจโกศล สมาชิกองค์การบริหารส่วนตําบลวังด้ง หมู่ 11 ต.วังด้ง
ได้ร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุมสภา อบต.วังด้ง เพื่อหาแนวทางบริหารจัดการเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ให้กับน้องยิ้ว และคุณยายของน้องยิ้ว เพื่อความโปร่งใส และจะทำให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้สบายใจ
โดยวันนี้ (30 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้นำสมุดบัญชีไปเช็คยอดที่ธนาคาร ปรากฏว่ามีการบริจาคเข้ามามากถึง 2,117,121.45 บาท โดยการประชุมในครั้งนี้ นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง อายุ 78 ปี เจ้าของบัญชี และเป็นยายของน้องยิ้ว ไม่ได้เดินทามาด้วยเนื่องจากอายุมากแล้ว แต่ได้มอบหมาย นายนคร ว่องวณิชชากร นายก อบต.วังด้ง เป็นผู้ดำเนินการแทน
ในที่ประชุมได้มีความเห็นพร้อมกันว่า จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา หากมีความจำเป็นจะต้องเบิกเงินในบัญชีธนาคารให้กับน้องยิ้ว จะต้องเซ็นต์เบิกจำนวน 3 คน จึงจะสามารถเบิกเงินได้ ประกอบด้วย 1.นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง 2.น.ส.อาภัศรา พวงมาลี ผอ.กองสวัสดิการสังคม อบต.วังด้ง และ 3.นายจิรวัฒน์ เฉลิมธนกิจโกศล สมาชิกองค์การบริหารส่วนตําบลวังด้ง หมู่ 11 ต.วังด้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนายจิรพงศ์ ยินดี หรือยิ้ว อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 2 แผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู รพ.พหลฯ อาการปัจจุบัน เริ่มรู้สึกตัว และลืมตาได้แล้ว
ส่วนนายณัฐพงษ์ เซี่ยงว่อง หรือ บูธ อายุ 28 ปี พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหา "แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย" ศาลพิพากษา จำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่เนื่องจากนายบูธ ยอมรับสารภาพ โทษจำจึงรอลงอาญา และปรับจำนวน 5,000 บาท
ส่วน ข้อหา "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ได้แยกสำนวนฟ้องเนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางเสียก่อน
