xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านชะอำ ร้อง บ.อสังหาใหญ่ ทำลายป่าชายเลนคลองสาธารณะ แต่หน่วยงานรัฐเมินช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เพชรบุรี - ชาวบ้านชะอำ ร้อง บ.อสังหาใหญ่ ทำลายป่าชายเลนคลองตากบ คลองสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่หน่วยงานรัฐเมินให้ช่วยเหลือ จึงได้ร้องศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ตรวจสอบการบุกรุก

วันนี้ ( 28 พ.ค.) นายเสนาะ สุขจำเริญ อดีตผู้ใหญ่บ้านบ่อไร่ ต.หนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้นำชาวบ้านบ่อไร่กว่า 30 คน ลงพื้นที่คลองตากบ ริมถนนสายคันกั้นน้ำเค็มสาย หาดเจ้า-ชะอำ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองศาลา อำเภอชะอำ ได้ทำหนังสือถึงร้องถึงหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชะอำ เพื่อแจ้งให้ทราบเรื่องที่มีการบุกรุกทำลายป่าชายเลนบริเวณคลองตากบ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลน และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

โดยเมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 มีรถแบ็กโฮและพนักงานของบริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ ซึ่งผู้ถือหุ้นเป็นธุรกิจเบียร์ยี่ห้อดัง ที่เป็นเจ้าของที่ดินนับหมื่นไร่ ทำการขุดต้นไม้ทำลายป่าในคลองตากบ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยมีนายธิติพงษ์ เดชบัวพระ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 พ.ต.อ.ภศิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ ทหาร ม.ท.บ.15 จังหวัดเพชรบุรี ร่วมลงพื้นที่

นายเสนาะ อดีตผู้ใหญ่บ้านบ่อไร่แก่นนำชาวบ้านกล่าว่า ตนแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ไปดูความเสียหาย และแจ้งไปยังนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชะอำ รวมทั้งแจ้งไปยังผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค จ.เพชรบุรี เพื่อขอให้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดแก่ผู้ทำลายป่าชายเลน

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ได้รับหนังสือจากผู้อำนวยการเจ้าท่าว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของกรมเจ้าท่า ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านก็เพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด ดังนั้นจึงอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมดำเนินการแจ้งความเอาผิดแก่ผู้ทำลาย โดยมีเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรป่าชายเลนที่ 4 เพชรบุรี ลงมาดูพื้นที่ ใน2 ประเด็น คือ

1.เมื่อปี 2558 กรมชลประทานได้กลบคลองตากบจนแคบ ทั้งๆที่มีหลักเขตของกรมที่ดิน ซึ่งปักไว้ข้างคลองระบุแนวเขตชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับมีการถมที่ดินรุกล้ำคลอง แต่เมื่อชาวบ้านร่วมกันคัดค้านถึงได้หยุด

อย่างไรก็ตามขณะนี้ดินที่ขุดไปไม่มีการถมกลับคืน ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน และทำให้สูญเสียพื้นที่สาธารณะไปถึง 4-5 ไร่

2.เมื่อวันที่ 23 พ.ค.62 พนักงานของบริษัทเอกชน นำรถแบคโฮขุดต้นไม้ในคลอง ทำลายป่าชายเลนความยาวตามฝั่งประมาณ 500 เมตร โดยชาวบ้านแจ้งตำรวจแต่ตำรวจบอกว่า เอกชนอาจจะหาหลักเขตแดนของเขา ทั้งๆที่หลักเขตก็ปักไว้ตลอดความยาวจำนวน 5-6 หลัก ชาวบ้านจึงให้ตนไปแจ้งกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคเพชรบุรี แต่กรมเจ้าท่าฯ แจ้งว่า ไม่มีหน้าที่ในเรื่องนี้ และก็ไม่บอกว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใด

ตนจึงไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชะอำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ โฉนดบริเวณคลองตากบ พบว่าในแผนที่แทบไม่เหลือพื้นที่ของคลองตากบอยู่เลย โดยถูกกลบเกือบหมด ทั้งๆที่อดีตคลองแห่งนี้กว้าง 10 เมตร ยาวกว่า 1 กิโลเมตร เคยมีโบสถ์น้ำซึ่งใช้ทำพิธีทางศาสนาในอดีต

ด้านนายธิติพงษ์ เดชบัวพระ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี กล่าว่า วันนี้ตนและเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบ ขอร้องเรียนดังกล่าว พบว่าบริเวณชายคลองตากบ มีการตัดต้นแสมป่าชายเลน ซึ่งเป็นไม้ป่าชายเลน ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี แต่อยู่นอกเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดตามแผนที่

ต่อไปเจ้าหน้าที่ที่ร่วมตรวจสอบในวันนี้ จะได้ทำบันทึกกล่าวโทษผู้กระทำผิด ในการตัดต้นไม้โดยขึ้นอยู่กับว่า ทางมติคณะรัฐมนตรีครอบคลุมหรือไม่ ถ้าครอบคลุมในพื้นที่ ก็ถือว่าเป็นทรัพย์สิน แต่ถ้าไม่ครอบคลุมในพื้นที่ถือว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตนจะต้องตรวจสอบสิทธิ์ในการครองครองพื้นที่ดังกล่าวเสียก่อน

ส่วนที่ชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการถมดินทับคลองตากบ ทำให้ความกว้างของคลองแคบลงนั้น ผู้ร้องไม่ได้ติดใจเรื่องนี้แต่ผู้ร้องติดใจเรื่องการตัดต้นไม้ทำลายป่าชายเลนซึ่งควรอนุรักษ์ไว้

ด้านพ.ต.อ. ภคิน ศิวเมธากุล ผู้กำกับการ สภ.ชะอำ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเองทำการตรวจสอบพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาท หรือมีการตัดไม้ ว่าเป็นพื้นที่ของใคร เป็นกรรมสิทธิ์หรือพื้นที่สาธารณะ ถ้าเป็นพื้นที่สาธารณะ กรมทรัพยากรป่าชายเลนก็จะเข้ามาดำเนินการตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ายังไม่ทราบว่าพื้นที่ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ หรือของบริษัทเอกชน ตำรวจจึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นพื้นที่ของใคร อีกทั้งตำรวจไม่มีหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวว่า เป็นพื้นที่ของใครครอบครอง

แต่ทั้งนี้สามารถพิสูจน์ได้เมื่อเข้าสู่กระบวนการในการตรวจสอบ สามารถรู้แน่ชัดได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของผู้ใดครอบครอง หรือเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ โดยถ้าพบว่าเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ ตนจะดำเนินการไปตามกฎหมาย



กำลังโหลดความคิดเห็น