ศูนย์ข่าวศรีราชา - เอาจริง
ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตโครงการยานยนต์ไฟฟ้า อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความ ตร.หลังพบมีป้ายต่อต้านผุดกลางพื้นที่โครงการ ชาวบ้านยันเป็นฝีมือนักเคลื่อนไหวไม่เอาอีอีซี ทั้งที่ชาวบ้านพื้นที่ต้องการให้ลูกหลานมีงานทำ
วันนี้ (28 พ.ค.) นายภาสกร รัตนกิกุล ตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท ดับเบิ้ลพีแลนด์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ ม.2 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 2 พันไร่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พศวัฒน์ พัตพัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปะกง ว่า มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการพัฒนาพื้นที่ในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เข้ามารบกวนสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว ด้วยการนำแผ่นป้ายข้อความต่อต้านและขับไล่เข้ามาติดตั้งภายในพื้นที่โครงการ
โดยได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับคนงานของบริษัทฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยขณะทำการรื้อถอนแผ่นป้ายดังกล่าวออกจากพื้นที่
และเมื่อเดินทางไปถึงได้พบ น.ส.นรี ศรประสิทธิ์ อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.เขาดิน ที่กำลังใช้เชือกผูกแผ่นป้ายและไม้ค้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนงานของบริษัทฯ เข้าสอบถาม น.ส.นรี กลับอ้างว่าได้ขอแผ่นป้ายมาจากที่อื่นเพื่อนำมาทำหลังคาบังแดดมุงเป็นเพิงพักให้แก่สุนัขที่เลี้ยงไว้ โดยมิได้เป็นผู้นำป้ายดังกล่าวมาติดตั้งในพื้นที่ พร้อมทั้งยังอ้างสิทธิในการเป็นผู้เช่าที่ดินทำนาบริเวณพื้นที่แปลงดังกล่าว ที่มีสภาพเป็นบ่อเลี้ยงปลา จำนวน 74 ไร่ ว่ายังคงเป็นสิทธิทำกินตาม พ.ร.บ.การเช่านาบนเนื้อที่แปลงดังกล่าวอีก 5-6 ปี
และภายหลังการเจรจา น.ส.นรี ได้ยินยอมให้ตัวแทนบริษัททำการรื้อแผ่นป้ายออกไปจากพื้นที่ แต่ได้ขอให้ทางบริษัทฯ ช่วยสร้างเพิงที่พักให้แก่สุนัข จำนวน 2 ตัวแทน ซึ่งตัวแทนบริษัทฯ ได้รับปากว่าจะดำเนินการให้
จากการสอบถาม นางอำไพ พ่วงรักษา อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า การนำป้ายต่อต้านเข้ามาติดในพื้นที่ของบริษัทดังกล่าว น่าจะเป็นการกระทำของคนนอกพื้นที่ที่มีอาชีพเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อต้องการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการ ในขณะที่ชาวบ้านเขาดินส่วนใหญ่ต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้มีงานทำใกล้บ้าน และยังจะทำให้พื้นที่ชุมชนมีการพัฒนา
เช่นเดียวกับ นายชลิตร สมพร อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนเองต้องการเห็นโครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นในพื้นที่โดยเร็ว เพราะอยากให้บุตรหลานมีงานทำเช่นกัน และที่ผ่านมา บริษัทเจ้าของโครงการได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่เคยเช่าที่ดินอยู่อาศัยและทำกิน ด้วยการซื้อที่ดินแปลงใหม่ให้เข้าอยู่อาศัยแทน ด้วยการให้ผ่อนชำระปลอดดอกเบี้ย เพียงเดือนละ 3,100 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าราคาค่าเช่าบ้านและห้องพักในปัจจุบัน
“ซึ่งราคาค่าเช่าห้องพักเล็กๆ ใน อ.บางปะกง ขณะนี้ต่ำสุดก็อยู่ที่ 2,500 บาทต่อห้อง และผู้ให้เช่ายังจำกัดจำนวนคนพัก เพียงห้องละไม่เกิน 3 คนเท่านั้น โดยในครอบครัวมีสมาชิกทั้งหมด 9 คน และต้องเช่าห้องพักอย่างน้อย 3 ห้อง รวมค่าเช่าไม่ต่ำกว่าเดือนละ 7,500 บาท ขณะที่บริษัทดังกล่าวจัดสรรที่ดินให้ผู้ที่เคยเช่าที่ดินรายละ 50 ตารางวา เพื่อให้ได้สร้างบ้านตามใจชอบก็ถือว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างดี” นายชลิตร กล่าว
