xs
xsm
sm
md
lg

พ่อแม่เหยื่อยิงโหด 3 ศพ นครปฐม ควงทนายพบ ตร.ร้องเรียนหลังคดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครปฐม - พ่อ แม่เหยื่อ 3 ศพ พร้อมทนาย เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน หลังพบคดีไม่คืบหน้า ติดใจพนักงานสอบสวนไม่แจ้งข้อหาผู้ที่ชี้เป้าให้ลงมือก่อเหตุ แต่อ้างว่ากันไว้เป็นพยาน โดยเชื่อว่าการวางแผนต้องมีไม่น้อยกว่า 8 คน ขวัญผวา กลัวจะถูกมาย้อนรอยยิงซ้ำเหมือนลูกตัวเองทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน

วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจาก 3 ครอบครัว นำโดย นายอัมพล เกตุบุญลือ อายุ 59 ปี บิดาของนายวัชระ เกตุบุญลือ ซึ่งมาพร้อมกับนางสมบูรณ์ โชระเวก อายุ 63 ปี มารดาของนายอนุรักษ์ โชระเวก นางอัจฉรา ปูมั่น อายุ 46 ปี มารดาของนายฤทธิเกียรติ ปู่มั่น ซึ่งทั้ง 3 คนได้สูญเสียบุตรชายจากเหตุมือปืนโหดกระหน่ำยิงเหยื่อ 3 ศพ

หลังจากได้มีการเขม่นกันและมีการเรียกมาปรับความเข้าใจ แต่สุดท้ายมือปืน คือ นายธีระพงษ์ พิมภา หรือเบ๊นซ์ ได้ชักอาวุธยิงใส่อริอย่างโหดเหี้ยม เป็นข่าวดัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งในวันดังกล่าว ได้มีการมอบหมายให้ นายชรินทร์ ลี้ภัยบูลย์ ทนายความเข้ามาเป็นตัวแทนในการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

โดย นายอัมพล เกตุบุญลือ บิดาของนายวัชระ เกตุบุญลือ อยู่บ้านเลขที่ 49/5 ม.3 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม บอกว่า การที่ตนเองต้องเดินทางมากันครบทั้ง 3 ครอบครัว เพื่อมาขอพบกับ พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ มากเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามพราน แต่ติดภารกิจ จึงได้ทำการมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับความล่าช้าของการดำเนินคดี ซึ่งถึงขณะนี้ดูจะไม่คืบหน้า และยังมีข้อที่ติดใจในเรื่องดังกล่าวอีก เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ถูกจับกุมตัวอีก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้ชี้เป้าและนำพามือปืนมาพบกับผู้ตายทั้ง 3 คน และเพื่อนๆ ที่มาร่วมกันเคลียร์ปัญหาในวันเกิดเหตุ

นายอัมพล บอกอีกว่า ลูกตนเองถูกยิงตายตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา แต่เมื่อไม่นานนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพิ่งมาพบตนเองเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม โดยได้มาเยี่ยมที่บ้าน โดยตนเองได้สอบถามไปว่า เรื่องคดีเป็นอย่างไร โดยสงสัยว่า ทำไมกรณีดังกล่าวมีกลุ่มคนร้ายที่ตนเองเชื่อว่าร่วมกันวางแผนในการบุกเข้ามายิงลูกชายของตัวเองและเพื่อน น่าจะมี 7-8 คน แต่ตำรวจจับตัวคนร้ายคือ นายธีระพงษ์ มือยิงมาคนเดียว ซึ่งได้รับคำตอบจากร้อยเวรเจ้าของคดีว่า ไม่เป็นไร พวกนั้นกันไว้เป็นพยานเดี๋ยวศาลตัดสินแล้วค่อยเสนอให้อัยการส่งฟ้องตามหลังได้ ซึ่งเมื่อตนเองได้ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ จึงได้เข้าไปปรึกษาทนายความ และมาเพื่อขอร้องเรียนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวทั้ง 3 ครอบครัว

“ตั้งแต่ลูกชายผมถูกยิง ผมทำใจไม่ได้เลยนอนไม่ได้มันทรมานมาก ภาพของมือปืนที่ยิงใส่หัวลูกผมมันหลอนทุกคืน เสื้อผ้ากางเกงมันหลวมจนใส่ไม่ได้แล้ว ผมตายแทนลูกได้ยังดีกว่า ร้านค้าก็ไม่ได้เปิดเลยเพิ่งมาเริ่มทำงานได้ไม่กี่วันนี้ ผมจะสู้เพื่อความเป็นธรรมของลูกผม วันที่ลูกผมโดนยิงผมไปดูลูกก็คิดว่าโดนยิงที่แขน แต่พอไปจับตัวเห็นที่หัวเขามีกระสุนเจาะไปแล้ว ผมยืนอุ้มลูกจนเลือดแห้ง บอกกับเขาว่าไอ้หนูพ่อช่วยหนูไม่ได้แล้ว ผมทรมานเหลือเกิน ผมต้องการความยุติธรรมให้เกิดแก่ลูกผม” นายอัมพล กล่าวพร้อมน้ำตา

ด้าน นายชรินทร์ ลี้ภัยบูลย์ ทนายความบอกว่า เรื่องนี้หลังจากตนเองได้เข้ามาดูเอกสารและการให้การจากพยานและทางญาติ เชื่อว่า คนที่ร่วมกันก่อเหตุนั้นไม่ได้มีมือปืนแค่คนเดียว เพราะคนทั้ง 3 ไม่เคยมีความโกรธแค้นกันมาก่อน แต่มีคนวางแผน คนชี้เป้าให้มือปืนเข้ามายิง โดยการเข้ามาส่งหนังสือร้องเรียนวันนี้ก็เพื่อให้ตำรวจได้พิจารณาในการติดตามคนที่ร่วมก่อเหตุมาด้วย ซึ่งตนเองเชื่อว่าหากตำรวจใส่ใจและสอบสวนตามหลักฐานที่ชัดเจนจะต้องมีการติดตามจับกุมคนที่ร่วมกันมาได้แน่นอน เพราะตำรวจไทยนั้นมีความเก่งมาก แต่วันนี้การร้องเรียนจะไปได้ถึงไหนก็ต้องมารอดูกันต่อไป ซึ่งขณะนี้ที่ห่วงคือ การที่ผู้สูญเสียลูกไปทั้ง 3 ครอบครัวนั้นมีความเสียใจไม่พอ ยังต้องมาหวาดกลัวกับกลุ่มคนร้ายด้วย ซึ่งเป็นการก่อเหตุที่เหี้ยมโหด เป็นสิ่งที่สังคมยอมรับไม่ได้และต้องนำมาแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นเรื่องการยิงกันง่ายๆ พกอาวุธปืนแบบที่เกิดขึ้นในคดีนี้

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของคืนวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา เมื่อ ร.ต.อ.นัฐพันธ์ ดำเนินวรกุล พนักงานสอบสวน สภ.สามพราน รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตหลายศพ ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้มีการเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยสามารถจับกุม นายธีรพงษ์ พิมพา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/11 หมู่ 1 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มือปืนได้ทันควัน โดยประเด็นในการสังหารโหดครั้งนี้ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ตาย ประกอบด้วย นายวุฒิชัย นารี เจ้าของห้องเช่า เป็นเพื่อนกับผู้ตาย 2 ใน 3 คน คือนายอนุรักษ์ โชระเวก และนายฤทธิเกียรติ ปู่มั่น ทั้งหมดเป็นพนักงาน บริษัท โปรเฟนเดอร์ จำกัด ในเขตอำเภอสามพราน ซึ่งได้เช่าห้องพักใกล้กับที่ทำงาน โดยมี นายแม็ค (ไม่ทราบชื่อจริง) ได้เช่าห้องถัดไป ประมาณ 6 ห้อง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมักจะมีการตั้งวงดื่มสุราหน้าห้องตัวเองเป็นประจำ

ซึ่งประเด็นที่ทางญาติผู้ตายยังคาใจคือ เหตุใด นายอั๋น และนายอาร์ม ยังไม่ถูกจับกุมตัวไปด้วย ทางญาติเชื่อว่าเป็นผู้มาชี้เป้าให้มีการยิงแต่ละคนเพื่อให้รู้จักชื่อว่าใครเป็นใคร เนื่องจากมือปืนไม่เคยรู้จักใครมาก่อนที่จะมาลงมือ และการตั้งวงดื่มสุราวันเกิดเหตุน่าจะมีการวางแผนมาเพื่อก่อเหตุโดยเฉพาะ แต่ถึงวันนี้กลับมีการจับกุมมือปืนพียงคนเดียว ส่วนกลุ่มคนในวงสุราของนายแม๊ค กลับไม่ถูกจับกุมเลยสักคน ซึ่งก่อนที่จะมาก่อเหตุ ตรวจสอบพบประวัติของนายธีรพงษ์ พบว่าเคยก่อเหตุคดีพยายามฆ่าในท้องที่ สภ.สามพราน มาเมื่อ 2 ปีก่อน ถูกจับส่งฟ้องศาล ติดคุกเพิ่งจะออกมาได้เมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 คือเพียง 7 วันก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น