ผู้นำ KNU ยืนยันนายพรานล่าหมีขอชายแดนไทย-พม่า ไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธ KNU

กาญจนบุรี - ผู้นำ KNU ประสานขอดูตัวนายพรานล่าหมีขอชายแดนไทย-พม่า หลังอ้างเป็นกองกำลังติดอาวุธ KNU ผู้นำยืนยันไม่ใช่แน่นอน ที่แท้แค่ชาวบ้านธรรมดา

วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า ได้จับกุมตัวนายซาตู ไม่มีนามสกุล พร้อมของกลางอาวุธปีนและซากสัตว์ป่าหลายรายการ ซึ่งพื้นที่จับกุมอยู่ห่างจากชายแดนไทย-พม่า ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยระหว่างถูกจับกุม นายซาตู ได้อ้างว่าตนเองเป็นชนกลุ่มน้อยกองกำลังติดอาวุธ KNU สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงบันทึกข้อมูลตามคำให้การของนายซาตู ผู้ต้องหา

โดยหลังการจับกุม สื่อมวลชนจากสำนักต่างๆ นำเสนอข่าวไปว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับกุมกองกำลังติดอาวุธ KNU จนเป็นข่าวโด่งดัง

ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยพญาเสือ ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า ได้รับการประสานจากผู้นำกองกำลังติดอาวุธ KNU จะขอพบและจะขอดูตัว นายซาตู ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกองกำลังติดอาวุธ KNU จึงได้แจ้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายพนัชกร โพธิบัณฑิต เจ้าของคดีไปร่วมตรวจสอบ และร่วมสอบถามนายซาตู

การสอบถามนายซาตู กล่าวว่า ตนเคยเป็นกองกำลังอิสระไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธ KNU ตามที่อ้าง ตนได้รู้จักกับผู้นำคนไทย เมื่อมีสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าก็จะนำไปขายให้แก่ผู้นำคนดังกล่าว ตนจะเข้าไปหาสัตว์ป่าตามแนวชายแดน เพราะไม่มีของหน่วยใด เดินตามแนวตะเข็บ ตนกับพวกจึงใช้โอกาสดังกล่าว ออกล่าสัตว์ป่าเพื่อนำมาขาย

พร้อมทั้งได้อ้างต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไทรโยค ว่า เป็นกองกำลังติดอาวุธ KNU นั้น เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ จะรู้จักและคุ้นเคยกับ KNU จึงได้อ้างเพื่อให้ปล่อยตัวเท่านั้น สำหรับปืนนั้น ผู้นำ KNU ได้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ปืนของกองกำลังแต่อย่างใด เนื่องจากอาวุธที่กองกำลังติดอาวุธ KNU ใช้ ไม่ใช่รุ่นนี้

ผู้นำกองกำลัง KNU ได้กล่าวอีกว่า ฝั่งกองกำลังติดอาวุธ KNU ได้ฝึก และอบรม เจ้าหน้าที่ของกองกำลังไม่ให้ตัดต้นไม้และล่าสัตว์ป่าอย่างเด็ดขาด นอกจากมีเหตุจำเป็นจริงๆ ต่อการดำรงชีพ และได้แจ้งต่อ นายพนัชกร อีกว่า ทางกองกำลังติดอาวุธ KNU ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ต่อไปเสมอ และพร้อมให้ความร่วมมือในการปกป้องป่าด้วยเช่นกัน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด พ.ต.อ.วันชัย อ่อนละออ ผกก.สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่า นายซาตู ผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าตนเองกับเพื่อนอีก 2 คนที่หนีไปได้ ไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยง KNU แต่เป็นชาวบ้านธรรมดาที่อาศัยอยู่ที่บ้านเคาะป้อก จ.ทวาย และมีอาชีพเป็นพรานล่าสัตว์ป่าเพื่อนำไปขาย

ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค กำลังสอบปากคำนายซาตู เพิ่มเติม และในช่วงบ่ายวันนี้ (24 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผลัดแรก จากทั้งหมด 7 ผลัด