xs
xsm
sm
md
lg

เร่งตาม คดีกองกำลังติดอาวุธลอบเข้าชายแดนล่าสัตว์ป่าสงวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาญจนบุรี - ผบก.ตร.กาญจน์ ลงพื้นที่ตามคดีกองกำลังติดอาวุธ ลอบเข้าชายแดนไทย สั่งเร่งรวมหลักฐาน ออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ด้าน หน.อช.ไทรโยค เผยไม่เคยพบกองกำลังเข้ามาเช่นนี้มาก่อน ขณะที่ KNU ปฎืเสธนายพรานที่ถูกจับ พร้อมของกลาง ไม่ใช่กองกำลัง

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า นำโดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค รองหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ พญาเสือ (กรมอุทยานฯ)และเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้จับกุมตัวนายซาตู ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี เป็นชนกลุ่มน้อยกองกำลังติดอาวุธ KNU สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

พร้อมของกลาง อาวุธปืน พร้อมกระสุนจำนวนหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีซากสัตว์ป่าสงวนอีกหลายชนิด เหตุเกิดวันที่ 21 พ.ค. ที่บริเวณป่าเขาเลาะ (เหมืองเดวิด) หมู่8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมาร์ ระยะทางประมาณ 3กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้องของกลาง ส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายใน 5 ข้อหา


ล่าสุดบ่ายวันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อม พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อม ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 136 (ไทรโยค) ทหาร กกล.รส.มทบ.17(ไทรโยค) ร่วมประชุมที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ไทรโยค อ.ไทรโยค เพื่อรับฟังความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.วันชัย อ่อนละออ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.บัญญัติ ไชนโกฏ รอง ผกก (สอบสวน) สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิศนุ ทวีแสง รอง ผกก.สส. สภ.ไทรโยค ร.ต.อ.กสานต์ พารา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ร่วมรายงานบรรยายสรุป


โดย พ.ต.ท.บัญญัติ ไชนโกฏ รอง ผกก.(สอบสวน) รายงานว่า คดีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จับพรานป่าพร้อมอาวุธสงครามและซากสัตว์ในพื้นที่ สภ.ไทรโยค รับไว้เป็นคดีที่ 206/2562 ยึดทรัพย์ที่ 125/2562 ลงวันที่ 23 พ.ค.62 เบื้องต้นทราบ ว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ค.เวลาประมาณ 13.51 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ออกลาดตระเวนไปถึงบริเวณป่าเขาเลาะ (เหมืองเดวิด หมู่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งห่างจากชายแดนไทยเมียนมาประมาณ 3 กม.


จากการสอบถามนายซาตู ผ่านล่ามเป็นภาษากะเหรี่ยง ทราบว่า นายซาตู เป็นชาวบ้านบ้านเคาะป้อก จ.ทวาย มีอาชีพเป็นพรานล่าสัตว์ ไม่ใช่ทหารกระเหรี่ยงKNU.แต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ค.62 ได้เดินทางออกจากบ้านพักในหมู่บ้านเคาะป้อก เพื่อล่าสัตว์นำกลับไปเป็นอาหาร


โดยขับขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมเพื่อนอีก 2 คน คือ นายซาปุ้ย อายุ 20 ปี และนายพอลลา อายุ 50 ปี ระหว่างอยู่ป่าฝั่งเมียนมาร์ ปรากฏมีสัตว์ป่าน้อยมา จึงเดินกันมาเรื่อยๆจนถึงฝั่งประเทศไทย เมื่อมาถึงฝั่งไทยคือจุดเกิดเหตุ ทั้ง 3 คนได้ใช้เวลา 1 วัน จึงสามารถล่าหมีขอได้ 1 ตัว และลิงกัง 1 ตัว จึงนำสัตว์ป่ามาแร่และลมควันเอาไว้ เพื่อนำไปเป็นอาหาร แต่สุดท้ายก็มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน ส่วนอาวุธปืนเป็นของเพื่อน 2 คน ที่หลบหนีไปได้


ภายหลัง พล.ต.ต.สุวิทย์ ได้เข้าไปสอบปากคำนายซาตู ด้วยตนเอง จากนั้นได้สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอขอออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมในครั้งนี้ อย่างเร่งด่วน ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ของกลาง ให้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 ส่วนซากสัตว์ป่าทั้ง 2 ชนิด ให้เร่งนำส่งไปพิสูจน์ที่นิติวิทยาศาสตร์ ของกรมอุทยานฯ เพื่อนำมาประกอบสำนวนหลักฐาน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะทราบผล

ต่อมาเวลา 15.30 น.ที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ในภาพรวมของสถานการณ์การลักลอบเข้ามากระทำผิดในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ หรือตัดไม้ก็ดี มีแนวโน้มลดลง เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ของเราเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ มีการลาดตระเวนอย่างเข้มข้นขึ้น ในพื้นที่ ที่พบและจับกุมจะเป็นเรื่องของการล่าเพื่อนำไปประกอบอาหาร ซึ่งเป็นกรณีที่นานๆเจ้าหน้าที่ของเราจะพบสักครั้งหนึ่ง แต่โดยภาพรวมแล้วลดลง

ส่วนกรณี เหตุการณ์ที่กองกำลังติดอาวุธข้ามแดนเข้ามาลักลอบล่าสัตว์ป่าครั้งนี้ ทางอุทยานฯจะมีการขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นหรือไม่”นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตอบว่า เราลาดตระเวนตามปกติที่มีการลาดตระเวนในเชิงคุณภาพอยู่แล้ว พื้นที่ ที่เราไปเจอเมื่อวานนี้ เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดแนวชายแดน ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติฯเองพยายามลาดตระเวนให้ครอบคลุมพื้นที่ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตก็จะมีการประสานกับทางกองกำลังทหารในการร่วมลาดตระเวน อีกส่วนหนึ่งจะต้องประสานไปทางประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าพื้นที่บริเวนดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เรา

แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอกองกำลังติดอาวุธ เข้ามาดูในลักษณะการเข้ามาเป็นกองกำลัง แต่จากการร่วมลาดตระเวนกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ก็จะเจอชนกลุ่มน้อยที่เดินข้ามไปข้ามมาหาญาติก็ดี หรือเข้ามารับจ้างก็ดี ก็จะมีอยู่เรื่อยๆ แต่การเข้ามาในลักษณะของกองกำลัง ครั้งนี้เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก”นายพนัชกร กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงชายแดนด้านจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดประสานงานชายแดนประจำบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประสานงานกับกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง KNU ที่อาศัยอยู่แนวตะเข็บชายแดน เพื่อตรวจสอบประวัติข้อมูลของ นายซาตู ซึ่งได้รับคำตอบจาก KNU ว่า นายซาตู ไม่ใช่ทหารของ KNU แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น