xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งกว่าละคร “ชุมชนชาวเล นาจอมเทียน” ทนกลิ่นน้ำเน่านับปี จี้นายกฯ ยึดมั่นสัญญาแก้ปัญหาจริงจัง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยิ่งกว่าละคร  เผย“ชุมชนชาวเล นาจอมเทียน” ต้องทนกลิ่นน้ำเน่าที่ทะลักลงหนองน้ำที่เชื่อมต่อกับคลองน้ำทิ้งทต.นาจอมเทียน นานนับปี ชี้ดีใจเหตุน้ำเน่าทะลักหาดจอมเทียนสร้างจุดเปลี่ยนแก้ปัญหา จี้นายกฯยึดมั่นสัญญา 



 จากเหตุการณ์น้ำเน่าสีดำจำนวนมหาศาล ไหลทะลักออกจากปากท่อระบายน้ำบริเวณชายหาดซอยนาจอมเทียน 8 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และยังทำให้น้ำทะเลบริเวณชายหาดจอมเทียนกลายเป็นสีดำในวงกว้างกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลต่อภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วย นายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน เจ้าของพื้นที่เป็นการด่วนรับผิดชอบ


โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชลบุรี ,สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ ฯลฯได้สรุปแนวทางแก้ไขระยะสั้น ด้วยการสูบน้ำเสียจากท่อระบายน้ำในทุกวันจันทร์ และพฤหัสบดี พร้อมนำถุงทรายปิดปากท่อระบายน้ำ 12 แห่ง เพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลทะลักออกสู่ทะเล


ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้ขอเวลา 1 เดือนในการซ่อมแซมระบบส่งน้ำเสีย พร้อมจะเร่งลงนามความร่วมมือ ( MOU) กับเมืองพัทยา ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยการผลักดันน้ำเสียในพื้นที่เข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยานั้น


ในวันนี้ ( 22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนใน “ชุมชนชาวเล” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม. 1 ซึ่งเป็นชุมชนประมงเก่าแก่หลายชั่วอายุคนที่ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 500 หลังคาเรือนว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณหนองน้ำซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับคลองน้ำทิ้งจากบ้านเรือนหลังวัดนาจอมเทียน ที่ตัดผ่านชุมชนไหลออกสู่ทะเล ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำเน่าเสียที่ทะลักลงหนองน้ำมานานนับปีเช่นกัน


และที่ผ่านมาชาวบ้านต้องทนสูดดมกลิ่นเน่าเหม็น และใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางน้ำ สกปรก มีสีเขียวเข้มบางจุดขุ่นดำ และมีตะไคร่น้ำที่ส่งกลิ่นเหม็นมาอย่างยาวนาน



นายบุญยิ่ง สุพรรณวงศ์ อายุ 60 ปี ชาวประมงที่อาศัยอยู่ในชุมชนชาวเลมานานกว่า 30 ปี บอกว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก แต่เมื่อมีสถานประกอบการขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมายในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ก็ทำให้ชาวบ้านต้องประสบปัญหาน้ำเน่าเสีย และต้องทนสูดดมกลิ่นเน่าเหม็น รวมทั้งมีอาการผื่นคันจากน้ำ โดยที่เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จะมีก็เพียงการนำลูก EM BALL มาโยนลงน้ำเพื่อแก้ปัญหากลิ่นเหม็นในระยะสั้น และไม่นานก็กลับเข้าสู่ภาวะเช่นเดิม


“ขณะนี้ทุกคนต่างเฝ้ารอความหวังจากคำมั่นสัญญาของนายกเทศบาลฯ ที่รับปากจะแก้ไขปัญหาน้ำเสียให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งถือเป็นความฝันที่เฝ้ารอมานานนับปี ” นายบุญยิ่ง กล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น