อุบลราชธานี - ชาวเน็ตแห่ชื่นชม จนท.รถไฟช่วยหนุ่มใหญ่นอนขวางรางรถไฟหวังให้ทับตาย สุดท้ายเปลี่ยนใจบอกไม่อยากตายแล้ว ก่อนเดินหนีหายไปในป่าข้างทาง เตือนอย่าทำอีกเพราะโอกาสรอดมีน้อยมาก
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปชายอายุประมาณ 50 ปีนอนขวางบนรางรถไฟ หวังให้รถไฟที่กำลังแล่นออกจากสถานีรถไฟอุบลราชธานีแล่นทับ แต่พนักงานขับรถคือ นายโยธิน มาศขาว มองเห็นได้ชะลอและหยุดรถ ก่อนให้พนักงานรักษารถและผู้ช่วยคือ นายวิโรจน์ ทองพิมพ์ ลงไปพูดคุยกับชายคนดังกล่าว ประมาณ 5-6 นาที กระทั่งยอมลุกออกจากรางรถไฟ ทำให้มีเสียงชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่รถไฟที่สามารถช่วยชายคนดังกล่าวไว้ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายอมรฤทธิ์ สุระพัฒน์ ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุว่า ขณะที่ขบวนรถเร็วที่ 139 วิ่งจากกรุงเทพฯ สุดทางที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี มีนายวัชรินทร์ ธดานิล เป็นพนักงานขับรถ กำลังขับนำขบวนรถเข้าสถานี เมื่อเวลาประมาณ 06.10 น.
แต่สังเกตเห็นชายต้องสงสัยคนดังกล่าวเดินอยู่ริมทางห่างจากสถานีประมาณ 1-2 กิโลเมตร ด้วยลักษณะคล้ายคนมีปัญหา จึงแจ้งเตือนมายังสถานีเพื่อแจ้งเตือนพนักงานขับรถขบวนต่างๆ ที่กำลังจะออกจากสถานีในเช้าวันนี้ระมัดระวังไว้ด้วย
หลังขบวนรถเร็ว 139 เข้าเทียบท่าที่สถานีแล้ว ก็เป็นจังหวะที่ขบวนรถดีเซลรางท้องถิ่นขบวนที่ 428 วิ่งระหว่างอุบลราชธานี-นครราชสีมา กำลังออกจากสถานีโดยมีนายโยธิน มาศขาว เป็นพนักงานขับรถ ได้ขับรถออกจากสถานีด้วยความเร็วต่ำ เพราะต้องคอยสังเกตตามที่ได้รับการแจ้งเตือน กระทั่งเห็นสิ่งผิดปกตินอนอยู่บนรางรถไฟ ห่างจากตัวรถประมาณ 300 เมตร จึงทำการชะลอและหยุดรถ และส่งพนักงานรักษารถเข้าไปพูดคุยเจรจากับชายคนดังกล่าวจนลุกออกจากรางรถไป
นายอมรฤทธิ์เล่าต่อว่า สำหรับชายคนดังกล่าวไม่ทราบเป็นใครมาจากไหน ถือว่าโชคดีมากที่สถานีได้รับการแจ้งเตือนจากขบวนรถก่อนหน้า จึงมีการประสานผ่านทางวิทยุสื่อสาร จนกระทั่งขบวนรถท้องถิ่นไปเจอนอนขวางอยู่บนราง หากเป็นการขับรถช่วงใช้ความเร็วปกติ การหยุดรถไฟได้ต้องใช้ระยะทางไม่น้อยกว่า 500 เมตรทีเดียว
การกระทำเช่นนี้ของชายคนดังกล่าวเป็นผลเสียทำให้ขบวนรถ 428 ต้องเสียเวลาถึง 20 นาที และส่งผลสะท้อนไปยังรถไฟอีก 2 ขบวนที่รอออกจากสถานีและเข้าสถานีต้องล่าช้าไปด้วย และตลอดทั้งวันนี้ขบวนรถที่จะเข้าและออกจากสถานีก็ต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น
เพราะหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้เข้าไปหาตัวชายคนดังกล่าวเพื่อทำการควบคุมตัว แต่หาตัวไม่พบ ทราบเพียงว่าได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทางรถไฟก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
ขณะที่นายวิโรจน์ ทองพิมพ์ เจ้าหน้าที่รักษารถที่ลงไปพูดจาเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าวเล่าว่า หลังได้รับคำเตือนจากสถานีเรื่องพบชายต้องสงสัยเดินอยู่ข้างรางรถไฟ พนักงานขับรถก็ได้เคลื่อนรถไปอย่างช้าๆ และมองเห็นสิ่งผิดปกตินอนอยู่บนรางรถไฟ จึงสั่งให้ตนและเพื่อนพนักงานรักษารถลงไปพูดคุยเจรจา
ตอนแรกชายคนดังกล่าวแจ้งว่าต้องการให้รถไฟแล่นทับตน เพราะเคยเอาปืนยิงตัวเองถึง 10 นัดก็ยังไม่ตาย จึงได้พูดจาปลอบใจ เพราะดูแล้วเขามีอาการเครียด แต่ไม่มีกลิ่นเหล้า และมองเห็นข้างตัวมีห่อยาเส้น จึงชวนให้ลุกขึ้นมา ตนจะมวนยาเส้นให้สูบ ซึ่งชายคนดังกล่าวเริ่มมีอารมณ์ดีขึ้น ก็ยอมลุกออกมาจากรางรถไฟ มาพูดจาบ่นอยู่ครู่เดียว จู่ๆ ก็ลุกขึ้นบอกว่า ไม่อยากตายแล้ว และเดินเข้าไปในป่ามันข้างทางหายตัวไป
“ดูจากลักษณะของชายคนดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะมีปัญหาจากความเครียด แต่ไม่ได้เมาเหล้าแน่นอนเพราะไม่ได้กลิ่นเหล้าเลย อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนคนอื่นๆ ไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะอาจไม่โชคดีเหมือนชายคนนี้ เพราะถ้าพนักงานขับรถไม่ระวังและมาเห็นในระยะใกล้มีโอกาสถูกรถไฟทับเสียชีวิตได้ เพราะการหยุดรถไฟต้องใช้ความยาวมากพอสมควร” นายวิโรจน์ พนักงานรักษารถที่เป็นคนเกลี้ยกล่อมกล่าวในที่สุด
