อุบลราชธานี - รุ่นพี่หัวร้อน หลังชกต่อยกับรุ่นน้องในงานบุญหมู่บ้านเดียวกันไม่สะใจ ตามใช้มีดอีโต้บุกฟันรุ่นน้องถึงห้องทำแผลในโรงพยาบาล ก่อนยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ และไม่เผยสาเหตุที่ก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมัคร ทองเหลือง รอง สวป.สภ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทฟันกันภายในห้องฉุกเฉิน รพ.เหล่าเสือโก้ก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม ร.ต.อ.ประครอง บุญสุภา รอง สว.สอบสวน สภ.เหล่าเสือโก้ก พบสภาพภายในห้องฉุกเฉินอุปกรณ์การแพทย์กระจัดกระจาย ส่วนผู้ก่อเหตุยืนคอยมอบตัวอยู่ทราบชื่อ นายธนกฤติ มุ้งพร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 บ้านโพนเมือง หมู่ 15 ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก พร้อมของกลางเป็นมีดปังตอ 1 เล่มเปื้อนเลือด
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายขณะเข้ารับการรักษาพยาบาล ทราบชื่อว่านายปรีดา ดวงเพชร 27 ปี ชาวบ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก หมู่บ้านเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ มีบาดแผลถูกฟันที่ใบหน้า 1 แห่ง อาการสาหัส หลังเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งไปรับการรักษาต่อที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี ขณะนี้ อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน มีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกันในงานบุญหมู่บ้านที่ดอนปู่ตาบ้านโพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี จนนายปรีดาถูกทำร้ายศีรษะแตก จึงมาให้แพทย์รักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก
แต่ระหว่างที่นายปรีดานอนรับการรักษาอยู่นั้น จู่ๆ นายธนกฤติคู่กรณีก็บุกเข้ามาในห้องฉุกเฉินพร้อมมีดปังตอ พุ่งเข้าฟันที่ใบหน้านายปรีดา 1 แผล ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่พยาบาล และเมื่อนายปรีดาถูกฟัน จึงเบี่ยงตัวหลบ จังหวะเดียวนายธนกฤติได้ใช้มีดฟันซ้ำ ทำให้ไปถูกอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นเครื่องวัดการเต้นของหัวใจ ความดันออกซิเจนมูลค่าประมาณ 2 แสนบาทได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามปรามให้หยุดการกระทำ เพราะทำให้ทรัพย์สินอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหายหลายรายการ ต่อมาจึงมีคนนำภาพอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหายแชร์ในโซเชียลมีเดียทำให้ชาวเน็ตต่างวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม
หลังก่อเหตุตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายธนกฤติดำเนินคดีตามกฎหมายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่นายธนกฤติไม่เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำร้ายร่างกายกัน และตามเข้ามาทำร้ายซ้ำในโรงพยาบาล ซึ่งมีบทลงโทษสถานหนักว่ามาจากเหตุใด
