เรือนจำหลายแห่ง ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์หลังได้รับพระราชทานอภัย

ภาคกลาง - นครปฐม - กาญจน์ ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันนี้ (17 พ.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ จำนวน 239 คนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธีฯ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราช โองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับไปประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป

สำหรับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี มีจำนวน 239 คน เป็นชาย 175 คน หญิง 17 คน ผู้ต้องโทษกักขัง ชาย 40 คน หญิง 7 คน

เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อม ก่อนปล่อยตัวคือ การให้การศึกษา การพัฒนาจิตใจและส่งเสริมศีลธรรมจรรยา และการฝึกอบรมวิชาชีพในหลักสูตรระยะสั้น เพื่อเตรียมตัวกลับสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ

พร้อมทั้งยังได้มีการมอบใบบริสุทธิ์ให้แก่ผู้ได้รับการปล่อยตัว และยังได้ร่วมกันถวายสัตย์ปฏิญาณตนกลับตัวเป็นคนดีและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้อีกด้วย

ปลื้มปิติ เรือนจำกลางนครปฐม ปล่อยผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษ

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระ วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการปล่อยตัว และลดหย่อนผ่อนโทษ

เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้น ได้กลับตนเป็นพลเมืองดี และเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ โดยในวันนี้เรือนจำกลางนครปฐม ได้ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องกักขัง และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ รวมทั้งสิ้น 292 คน สำหรับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ เรือนจำกลางนครปฐมจะเร่งดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาฯ ในขั้นตอนต่อไป

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์และครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษ ขอให้ผู้ต้องราชทัณฑ์พึงระลึกไว้เสมอว่าพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้เป็นการให้โอกาส ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจที่จะประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีงาม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตั้งปณิธานเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ

ขอให้นำความรู้ด้านต่างๆ ที่ได้รับจากการอบรมหรือจากการฝึกอาชีพในขณะต้องโทษ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และประกอบการงานที่สุจริต สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ หากต้องการคำปรึกษาในเรื่องของการประกอบอาชีพ หรือปัญหาด้านอื่นๆ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ หรือ ศูนย์แคร์ ของเรือนจำกลางนครปฐม เพื่อประสานให้ผู้พ้นโทษได้มีงานทำ รวมทั้งติดต่อหาทุนในการประกอบอาชีพอีกด้วย