ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ยกย่อง! หนุ่มน้อย รปภ.วัดดังเชียงใหม่ เด็กเรียนเก่งสอบติด 2 มหาวิทยาลัย ว่าที่นิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาศัยช่วงว่าง 2 เดือนระหว่างรอไปเรียนสมัครทำงานหาเงินเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายแบ่งเบาภาระแม่
หลังสอบติดถึง 2 สถาบันการศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เลือกรับทุนฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เข้าสู่รั้วจามจุรี เผยชีวิตยากจนแต่ตั้งใจเรียนเพื่อรับทุนแบ่งเบาภาระแม่เลี้ยงเดี่ยว สมัครมาเป็น รปภ.วัดเจดีย์หลวงราชวรวิหาร ที่เชียงใหม่ได้ 2 เดือน เพื่อหาเงินเดินทางไปเรียน ให้กำลังใจทุกคน ทุกอาชีพ หากมีความตั้งใจจริงก็จะประสบความสำเร็จตามที่หวัง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเรื่องฮือฮาและน่ายกย่องชื่นชมเมื่อพบ รปภ.หนุ่มคนหนึ่งวัย 18 ปี ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกบริเวณประตูวัด เป็นเด็กที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาจากจังหวัดน่าน และสอบติดเข้าเรียนคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่อาศัยช่วงเวลาว่างระหว่างที่เตรียมไปเรียนมาทำงานรับจ้างในตำแหน่งดังกล่าวเพื่อเก็บเงินนำไปใช้จ่ายและแบ่งเบาภาระของแม่
จากการตรวจสอบพบว่า รปภ.หนุ่มคนนี้คือ “น้องวี” หรือนายวีรพงศ์ แซ่หาญ อายุ 18 ปี เด็กเก่งที่เพิ่งจบชั้น ม.ปลายจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน มาได้ไม่ถึง 3 เดือน แต่มีดีกรีเป็นถึงว่าที่นิสิตคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีการศึกษา 2562 นี้ด้วย
วันนี้ (16 พ.ค. 62) ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร “น้องวี” ในชุดเครื่องแบบ รปภ.ของบริษัท ชัยภูมิ โปรการ์ด และทำงานตามปกติ เปิดเผยเกี่ยวกับการมาทำงาน และการสอบติดมหาวิทยาลัยว่า แต่ก่อนตนเองอาศัยอยู่กับแม่ที่แยกทางกับพ่อมาตั้งแต่ 6-7 ปีก่อน และอาศัยอยู่กับแม่ที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยมีฐานะค่อนข้างยากจน แม่ทำอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำ รายได้ประมาณ 6,000-7,000 บาทต่อเดือน แต่ตนเองเป็นลูกคนเดียว เงินจำนวนดังกล่าวจึงพอเลี้ยงดูกันสองแม่ลูกได้ และแม่ยังเก็บออมจนสามารถสร้างบ้านหลังเล็กๆ ไว้อยู่อาศัยจนสำเร็จด้วย จากการที่เห็นแม่ทำงานหนักเลี้ยงดูตัวเอง จึงมีความตั้งใจมาตั้งแต่เด็กที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ให้ได้
โดยสิ่งที่ทำได้คือต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เพื่อที่จะหาทุนการศึกษามาเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ จนได้รับทุนของมูลนิธิจุฬาภรณ์ จนจบชั้นมัธยมปลายเมื่อช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา และมีผลการเรียนดีมาตลอด เกรดล่าสุดเทอมสุดท้าย ม.6 ได้เกรดเฉลี่ย 3.92 จึงได้ใช้ผลการเรียนยืนสมัครเข้ารับการคัดเลือกในระดับมหาวิทยาลัย คือได้ยื่นไป 2 ที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ในช่วงที่รอผลการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยก็หวังที่จะหารายได้มาจุนเจือครอบครัว และที่สำคัญต้องหาเงินไว้สำหรับการที่จะต้องใช้จ่ายในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย จึงได้เดินทางมาสมัครงานเป็น รปภ.กับบริษัทดังกล่าว ตามที่มีรุ่นพี่ทำงานอยู่ที่นี่ เพราะเห็นว่ารายได้ดีและมีสวัสดิการพร้อม เริ่มงานมาได้จนถึงวันนี้ประมาณ 2 เดือนครึ่ง แต่ช่วงประกาศผลตนเองรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตจากความพากเพียรของตนเองที่ตั้งใจเรียนมาตลอดจนได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งที่ตนเองได้ยื่นไป
อย่างไรก็ตาม ตัดสินใจเลือกไปเรียนที่ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตนเองอยากเรียน และอยากเป็นมาตลอดทั้งชีวิตที่ตั้งใจ แรกเริ่มอยากเป็นแพทย์ แต่ดูคะแนนแล้วอาจจะไม่ถึง จึงเลือกที่จะลงในสาขาวิชาชีพที่ใกล้เคียงกันก็คือสัตวแพทย์ และที่สำคัญยังได้ทุนประเภท ก ของมูลนิธิ จุฬาภรณ์ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร และค่าที่พักตอดจนจบการศึกษาด้วย ตอนนี้เงินที่หาได้จากอาชีพ รปภ.ก็จะกลายเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ก็จะพาแม่ไปมอบตัว และทำสัญญารับทุน ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อจากนี้ไปก็จะลาออกจากงาน รปภ.ที่เชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่เพื่อนร่วมอาชีพต่างก็ยืนยันว่าน้องวีเป็นเด็กดี ขยัน ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี เป็นที่รักของเพื่อนๆ พี่ๆ และยังเป็นความภาคภูมิใจกับเพื่อร่วมอาชีพ ที่น้องประสบความสำเร็จก้าวต่อไปในชีวิต ส่วนช่วงที่ต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็จะพยายามหางานพาร์ตไทม์ ทำเพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของตนเอง โดยเฉพาะสำหรับเสริมเรื่องของการเรียนเพิ่มเติมจากทุนที่ได้รับ พร้อมฝากให้กำลังใจ และข้อคิดสำหรับทุกคน ทุกอาชีพ ว่าหากมีความตั้งใจจริงในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วก็จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตนเองหวังไว้ของเพียงไม่ท้อ ขยัน และซื่อสัตย์กับตนเองก็จะประสบความสำเร็จได้ทุกคน