บุรีรัมย์ - ผู้ฝึกสอนทีมเรือเยาวชนนนทบุรี แจงถูกตำรวจ สภ.หนองบุญมาก ออกใบสั่งใช้รถลากจูงไม่ได้รับอนุญาต ชักลากเรือยาว 12 เมตร มาแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่บุรีรัมย์จริง แต่ยังไม่ได้ปรับแค่ตักเตือน ยันไม่ติดใจ วอนสังคมหยุดแชร์ข่าว
วันนี้ (15 พ.ค. 62) จากกรณีที่ทีมเรือพายจังหวัดนนทบุรี ที่เดินทางมาแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ “บุรีรัมย์เกมส์” ที่จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพ แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จับปรับในข้อหา “ใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยในใบสั่งดังกล่าวระบุค่าปรับ 500 บาท จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในกลุ่มนักกีฬาและสื่อโซเชียล
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังสนามแข่งเรือพาย ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.เสม็ด อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ พบกับนายสยุมภู ป้อมเสมา ครูผู้ฝึกสอนทีมเรือเยาวชนเมืองนนทบุรี ได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ผู้ช่วยโค้ชและทีมนักกีฬาบางส่วนออกเดินทางมาจาก จ.นนทบุรี ช่วงเย็นของวันที่ 11 พ.ค. เพื่อจะไปร่วมแข่งขันเรือพายในวันที่ 15 พ.ค.ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งขบวนได้บรรทุกเรือพายขนาดความยาว 12.5 เมตร มา 2 ลำ โดยบรรทุกเรือใส่ตัวพ่วงใช้รถกระบะลากจูง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 06.50 น. วันที่ 12 พ.ค. ได้เดินทางมาถึงบ้านหนองหัวแรด ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจเรียกให้จอดเพื่อตรวจสอบพร้อมได้ออกใบสั่งแจ้งข้อกล่าวหาว่าใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต ระบุค่าปรับ 500 บาทในใบสั่งด้วย
ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ถือโอกาสขอชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เปรียบเทียบปรับตามออกใบสั่ง และไม่ได้ยึดใบขับขี่ของคนขับรถกระบะแต่อย่างใด หลังเจ้าหน้าที่เขียนใบสั่งแล้วก็ได้ปล่อยให้เดินทางต่อไป เมื่อเดินทางมาถึง จ.บุรีรัมย์ เช้าวันที่ 13 พ.ค. มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
จากนั้นได้ประสานไปยัง สภ.หนองบุญมาก ท้องที่เกิดเหตุ ได้พูดคุยทำเข้าความเข้าใจตั้งแต่วันนั้นเรียบร้อยแล้ว โดย สภ.หนองบุญมาก ได้แก้ไขในใบสั่งดังกล่าวเป็นแค่การตักเตือนเท่านั้น พร้อมทั้งขอชี้แจงด้วยว่าหนังสือที่ทางคณะนักกีฬายื่นให้ทางตำรวจว่าเป็นใบเบิกทางนั้น เป็นหนังสือของทางจังหวัดที่ส่งตัวนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน ไม่ใช่หนังสือเบิกทางตามที่เป็นข่าว
ส่วนที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน และเป็นเรื่องของความรู้สึกของทีมนักกีฬาที่อาจคิดว่าที่ผ่านมาก็ใช้ตัวพ่วงชักลากเรือพายไปแข่งขันหลายจังหวัด แต่ไม่เคยถูกจับข้อหาดังกล่าว แต่หลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าวเผยแพร่อย่างกว้างขวาง อยากจะวิงวอนชาวโซเชียลฯ และสังคมได้หยุดแชร์หรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะในนามทีมนักกีฬาเมืองนนท์ไม่ได้ติดใจอะไร และเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่ถูกต้องแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้องเอง ถือเป็นบทเรียนต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัด ให้รายละเอียดว่า การต่อตัวพ่วงในลักษณะดังกล่าวต้องยื่นขออนุญาตเป็นรถเพื่อใช้ในการเกษตร และเสียภาษีตามกฎหมาย เหมือนกับประเภทอื่นๆ โดยเจ้าหน้าที่จะออกเป็นป้ายทะเบียนสีส้มให้