ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เผยอานิสงส์แรง ศรัทธา “หลวงพ่อคูณ” ช่วยให้ ปชช.บริจาคร่างเป็น “อาจารย์ใหญ่” เพิ่มหลายเท่าตัว เป็นกุศลบุญที่ยิ่งใหญ่ ด้านหนุ่มวัย 32 ปีเผยได้แรงบันดาลใจอุทิศร่างจากคำพูดหลวงพ่อที่ว่า “เผาไปไร้ประโยชน์ อุทิศเป็นวิทยาทานดีกว่า"
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่บริเวณด้านหน้าห้องหน่วยบริจาคร่างกาย ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ชั้น 4 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข.พร้อมด้วย ผศ.พญ.วิไลวรรณ หม้อทอง หน.ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. นำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการเรียนของนักศึกษาแพทย์ ขณะทำการศึกษาร่าง “อาจารย์ใหญ่” ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต ที่ได้บริจาคร่างกายเพื่อใช้ในการศึกษาของนักศึกษาแพทย์
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี ม.ขอนแก่น กล่าวว่า การบริจาคร่างกายคือการทำบุญกุศลหรือการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ผู้บริจาคเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ ยอมสละร่างกายของตนเองให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปช่วยเหลือรักษาเพื่อนมนุษย์ในสังคมต่อไป คาดหวังให้ผู้ที่ยังอยู่ข้างหลังไม่ต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วย เป็นการให้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
ร่างกายของผู้บริจาค สามารถสร้างประโยชน์เพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์ได้มากมาย ทั้งเพื่อการศึกษาของนิสิตแพทย์ และแพทย์ประจำบ้านเพื่อการฝึกอบรมหัตถการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์หรือเพื่อเก็บเนื้อเยื่อบางส่วนสำหรับการรักษาทางการแพทย์และเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกหัดผ่าตัดเก็บโครงกระดูกเพื่อการศึกษาตลอดไป
รศ.นพ.ชาญชัยเปิดเผยอีกว่า นับตั้งแต่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ท่านบริจาคร่างให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มข.แล้วตกเป็นข่าวแพร่หลายเมื่อ 4 ปีที่แล้วภายหลังละสังขาร ก็ได้สร้างกระแสความตื่นตัวและความศรัทธาในการเป็นอาจารย์ใหญ่ของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก จากเดิมโรงพยาบาลศรีนครินทร์มีตัวเลขผู้แสดงความประสงค์บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่เฉลี่ยวันละประมาณ 50 ราย ได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว สูงสุดมากถึงวันละ 400 ราย อย่างน้อยก็ 100 ราย
อานิสงส์บารมีความศรัทธาในองค์หลวงพ่อคูณดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันนี้คณะแพทยศาสตร์ มข.มีครูใหญ่ มากเพียงพอสำหรับการเรียนของนักศึกษาแพทย์ และการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางในการฝึกผ่าตัดอวัยวะฝึกซ้อมเสมือนจริงในร่างครูใหญ่ ก่อนที่ไปผ่าตัดคนไข้จริง ถือเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนศาสตร์ทางด้านการแพทย์เป็นอย่างมาก
ขณะที่นายนันทวิทย์ แสงส่อง อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชน บ้านเลขที่ 75 หมู่ 2 ต.กุดกว้าง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น หนึ่งในผู้ที่แจ้งความประสงค์บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ยอมรับว่าตนมีแรงจูงใจที่จะบริจาคร่างกายให้โรงพยาบาลศรีนครินทร์ภายหลังได้เข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงเป็นกรณีพิเศษครูใหญ่หลวงพ่อคูณ รู้ว่าเหตุผลของท่านที่บริจาคร่างกายเพราะท่านคิดว่าเผาไปก็ไร้ประโยชน์ สู้อุทิศร่างกายเป็นวิทยาทานให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้ศึกษาจะดีกว่า
ซึ่งตนเคยไปบริจาคร่างกายโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ แล้วเขาไม่รับ แต่แนะนำให้มาบริจาคกับโรงพยาบาลในภูมิลำเนา
“ผมมีน้องสาว 1 คน เรื่องบริจาคร่างกายนี้พ่อกับแม่ก็สนับสนุน ที่มาบริจาคร่างกายในวันนี้เป็นคิวที่ 91 ผมมีความเชื่อในเรื่องชาติภพ เชื่อว่าชาติหน้ามีจริง แต่ไม่รู้จะได้เกิดเป็นอะไร คิดที่จะบริจาคอวัยวะต่างๆ ตั้งแต่อายุ 20 ปี จึงอยากจะฝากให้ใครจะทำบุญเป็นครั้งสุดท้ายก็เชิญ” นายนันทวิทย์กล่าว
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ค.นี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำหนดทำพิธีบำเพ็ญกุศลครบรอบ 4 ปีการมรณภาพพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พร้อมทั้งยังจัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างอนุสรณ์สถาน (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ซึ่งต้องใช้งบประมาณหลายสิบล้านบาท
