xs
xsm
sm
md
lg

“น้องน้ำผึ้ง” เฮได้สัญชาติไทยตามน้องพลอย แถมสอบติดเทคนิคการแพทย์ มช.แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เชียงราย - “น้องน้ำผึ้ง-นร.โรงเรียนดำรงฯเชียงราย” เฮ..ได้สัญชาติไทยตามน้องพลอย พร้อมเดินทางเข้าร่วมแข่งขันโครงการวิทยาศาสตร์ที่อเมริกา แถมสอบติดเทคนิคการแพทย์ มช.แล้ว

วันนี้ (10 พ.ค.) นางเกี๋ยง ปัญญา อายุ 45 ปี และนายเสรี จิ่งมาดา ผู้ใหญ่บ้านกลางทุ่ง หมู่ 7 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย รวมทั้งคณะครูโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย ได้นำ น.ส.น้ำผึ้ง ปัญญา (ลูกสาวนางเกี๋ยง) อายุ 18 ปี นักเรียนห้อง 1 พิเศษโรงเรียนดำรงฯ เดินทางไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทย ครั้งแรกที่ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย

หลังจากกรมการปกครอง และนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงราย ได้เห็นชอบให้ใช้วิธีการเร่งด่วนในการให้สัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ปี 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ 4) ปี 2551 มาตรา 7 ทวิ วรรค 2 และทำบัตรให้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก น.ส.น้ำผึ้งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยให้ไปร่วมแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ หรือ Science Project Competition ที่งาน Intel ISEF2019 สหรัฐอเมริกา ระหว่าง 12-17 พ.ค.นี้

แต่ประสบปัญหาเหมือนกับ น.ส.ยลฤดี ปิยะทัต หรือน้องพลอย ชาว จ.ระนอง ที่ไม่มีสัญชาติไทย ทำให้ทางการสหรัฐอเมริกาไม่อนุมัติวีซ่าให้ ขณะที่ก่อนหน้านี้น้องพลอยได้ดำเนินการกรณีพิเศษจนได้สัญชาติไทย และบัตรประจำตัวประชาชนไปก่อนหน้านี้แล้ว

นายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย ให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการยื่นเอกสาร จัดพิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายภาพก่อนจัดทำเป็นบัตรประจำตัวประชาชน โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น น.ส.น้ำผึ้งก็ได้บัตรประชาชน ระบุบ้านเลขที่ 208 หมู่บ้านกลางทุ่ง บัตรหมดอายุวันที่ 5 ธ.ค. 2570 ซึ่งสร้างความดีใจให้แก่ น.ส.น้ำผึ้ง และมารดาคือนางเกี๋ยง รวมทั้งครูอาจารย์ที่เดินทางไปส่งเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงราย, นายภาณุฉัตร สวัสดิชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ ก็ได้เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีและมอบบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งสำเนาทะเบียนบ้านให้อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบทุนค่าเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วย ก่อนที่ น.ส.น้ำผึ้งจะเดินทางไปทำพาสปอร์ต ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จ.เชียงราย อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้วเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไป

นายประจญกล่าวว่า กรณี น.ส.น้ำผึ้งถือเป็นกรณีให้สัญชาติไทยแบบพิเศษ เพราะเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันทางวิชาการที่อเมริกา เพราะตามปกติแล้วผู้มีคุณสมบัติเช่นนี้และยื่นเรื่องจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ จึงคาดหวังว่าเมื่อได้เป็นตัวแทนแล้วจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และจังหวัดเชียงรายได้ในอนาคตต่อไป

ด้านนายสมกิจกล่าวว่า พื้นที่ อ.เมืองเชียงรายมีผู้ยื่นขอสัญชาติไทยอยู่ประมาณ 2,000-3,000 คน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเกิดในประเทศไทยและอาศัยอยู่เกิน 10 ปี ซึ่งกรณีมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทางนายอำเภอฯ มีอำนาจในการพิจารณา แต่หากอายุเกิน 18 ปี ผู้ว่าฯ จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกรณีหลังนี้ตนเพิ่งอนุมัติรายชื่อ และยื่นให้ทางจังหวัดฯ พิจารณาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 42 ราย

สิ่งสำคัญที่ทำให้รายอื่นๆ ล่าช้าคือการไม่สามารถหาหลักฐานการเกิดมายืนยันเจ้าหน้าที่ได้จึงต้องใช้กระบวนการสอบปากคำทั้งชาวบ้าน หมอตำแย ฯลฯ แต่หากมีหลักฐานการเกิดหรือสูติบัตรแล้วอยู่เกิน 10 ปียืนยันว่าจะได้รับสัญชาติไทยทุกคนแน่นอน

กรณี น.ส.น้ำผึ้งอาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ชัดเจน ทำให้มีปัญหาเรื่องการขอสัญชาติมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เจ้าตัวอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่จะได้รับการพิจารณาได้สัญชาติ เพราะเกิดที่หมู่บ้านดังกล่าวเมื่อปี 2543 และได้รับการสำรวจกลุ่มบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนพร้อมกับมารดามาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งครั้งนี้นายเสรี ผู้ใหญ่บ้านกลางทุ่ง ได้โอนให้ น.ส.น้ำผึ้งเข้าไปมีรายชื่อในทะเบียนของตัวเอง เพื่อให้มีที่อยู่ชัดเจน และเข้าสู่กระบวนการให้สัญชาติได้โดยสะดวก

ขณะที่นางเกี๋ยงกล่าวว่า ตนและสามีเป็นชาวไทใหญ่ อยู่เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า เดินทางมาอยู่ที่ ต.แม่ยาวตั้งแต่ตนอายุได้ประมาณ 18 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นชายอายุ 22 ปี ส่วนคนเล็กคือ น.ส.น้ำผึ้ง ตอนอายุได้ 8 เดือนสามีตนก็เสียชีวิต ครอบครัวจึงมีอยู่ด้วยกันเพียง 3 คน คือ ตน ลูกชาย และ น.ส.น้ำผึ้ง โดยตนทำงานเป็นแม่บ้านที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงราย คอยหาเลี้ยงลูกๆ ตามลำพัง

สำหรับน้องน้ำผึ้งเป็นคนเรียนเก่งตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เข้าเรียนอนุบาล จนถึง ป.1-6 ที่โรงเรียนบ้านแม่ยาวก็ได้เกรด 4 ทุกวิชามาตลอด ทำให้ครูแนะนำให้ไปสอบเข้าโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ซึ่งมีคนไปสอบแข่งกันมาก ปรากฏว่าสอบได้แล้วอยู่ห้อง 1 พิเศษอีก กระทั่งได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันที่ต่างประเทศและได้รับการพิจารณาให้ได้สัญชาติไทยดังกล่าวจึงรู้สึกดีใจมาก และหวังจะให้เขาสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทยสมกับที่ได้รับสัญชาติไทยต่อไป

ด้าน น.ส.น้ำผึ้งกล่าวว่า ดีใจมาก ขอขอบคุณทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน, อาจารย์เตือนใจ ดีเทศน์, อธิบดีกรมการปกครอง, ครูอาจารย์, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่ช่วยเหลือตนจนได้รับสัญชาติไทย และตนยืนยันว่าจะนำความหวังดีของทุกท่านมาใช้ตั้งแต่ไปร่วมการแข่งขันที่อเมริกา และอยากให้คนต่างประเทศได้รู้ว่าเมื่อตนได้เป็นคนไทยแล้วก็มีความสามารถเช่นกัน

“จะใช้สัญชาติไทยทำตนให้เป็นคนดีต่อสังคม ตั้งใจเรียน สานความฝันในสิ่งที่อยากจะทำให้ได้ต่อไป ซึ่งตอนนี้สอบเข้าเรียนคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แล้ว ก็ตั้งใจจะทำงานด้านการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพให้สมกับได้ตั้งใจเอาไว้”
กำลังโหลดความคิดเห็น