จันทบุรี - เจ้าของสวนทุเรียนเมืองจันท์โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย แก๊งมิจฉาชีพทำทีหลอกดูสวนอ้างขอเหมาทุเรียนจากต้นโดยให้ราคางาม สุดท้ายดอดพาพ่อค้าคนกลางเข้ามาหลอกขายทุเรียนราคาถูก ซ้ำอ้างตัวเป็นเจ้าของแทน โชคดีไม่ทันได้โอนเงิน
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางบุษยา รุ่งสว่าง หรือเจ๊เล็ก เจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่บ้านเขาหักพัฒนา ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่าได้มีกลุ่มมิจฉาชีพทำทีเข้ามาขอซื้อทุเรียนภายในสวนโดยหลอกว่าจะให้ราคหน้าสวนสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท ก่อนจะฉวยโอกาสสวมรอยเป็นเจ้าของสวนหลอกพาพ่อค้าคนกลางมาดูทุเรียนในสวนของตนเองที่จะขายให้ในราคาถูก แต่พ่อค้าคนกลางจะต้องโอนเงินมัดจำเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวก่อน
"มิจฉาชีพที่ทำทีหลอกเข้ามาดูทุเรียนภายในสวนเป็นหญิงวัยประมาณ 40 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีดำ ทำทีขอเดินดูทุเรียนในสวน แต่ที่ผิดสังเกตคือ ขณะเดินดูทุเรียนหญิงคนนี้กลับพูดคุยแต่โทรศัพท์โดยไม่ได้คุยเรื่องทุเรียนแต่อย่างใด กระทั่งเช้าวันถัดมา หญิงคนดังกล่าวได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะพาพ่อค้าคนกลางเข้ามาดูทุเรียนที่สวน ซึ่งในวันเกิดเหตุตัวเองไม่ได้อยู่ที่สวนก็บอกให้เข้าไปดูได้เลย จนถึงเวลาประมาณบ่าย 3 โมง มีพ่อค้าคนกลางนั่งรถมากับคนงานพร้อมบอกว่าคนที่อ้างเป็นเจ้าของสวนบอกว่าจะขายทุเรียนให้ในราคาคว่ำหนาม 85 บาทต่อ 1 กิโลกรัมทุกลูก จึงตกลงซื้อและเตรียมที่จะโอนเงินมัดจำเข้าบัญชีของมิจฉาชีพ"
นางบุษยา ยังบอกอีกว่า โชคดีที่ในวันนั้นโทรศัพท์ของพ่อค้าคนกลางที่จะเข้ามารับซื้อทุเรียนแบตเตอรี่หมดจึงไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพหญิงคนดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นถือว่าพ่อค้าทุเรียนรายนั้นยังโชคดีที่ไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีหญิงที่แอบอ้างเป็นเจ้าของสวน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โป่งน้ำร้อน เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามรถคันดังกล่าวแล้ว
และจากการสอบถามเจ้าของสวนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันยังบอกอีกว่าได้เห็นรถเก๋งฮอนด้าซีอาร์วี หมายเลขทะเบียน กต 7688 จันทบุรี สีบรอนซ์ ซึ่งเป็นรถที่มิจฉาชีพใช้ก่อเหตุขับออกไปจากสวนของตนเองด้วย
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้เคยก่อคดีหลอกลวงต้มตุ๋นมาแล้วหลายครั้ง และยังเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ตำรวจกำลังติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
