ฉะเชิงเทรา - ผอ.พื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กำชับ จนท.ดูแลช้างป่าออกตั้งด่านลอยกินพืชผลการเกษตรของชาวบ้านบนถนนสายความมั่นคง 3259 (เดิม) อย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุช้างหนุ่มใช้งวงกระชากคนเพราะคิดว่าเป็นอาหาร ชี้เหตุจากความเคยชินเรื่องการหยุดรถให้อาหาร
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปภาพช้างป่าเพศผู้ขนาดใหญ่ งายาวเกือบ 1 เมตร ที่กำลังเดินอยู่บนไหล่ทางถนนหลวงแผ่นดินสาย 3076 หรือสายความมั่นคง 3259 (เดิม) ซึ่งตัดผ่านพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ใช้งวงเกี่ยวดึงบริเวณท้ายรถกระบะเพื่อค้นหาอาหารจากรถยนต์ของชาวบ้านที่วิ่งผ่านไปมาบนเส้นทางดังกล่าวเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 พ.ค.2562
จนทำให้รถยนต์หลายคันพากันหยุดและชะลอรถเพื่อให้ช้างป่าเดินผ่าน แต่เมื่อมาถึงรถกระบะที่มีคนนั่งด้านท้ายประมาณ 4-5 คน ช้างป่ากลับใช้งวงเกี่ยวคอหญิงวัย 66 ปีที่ใช้หมวกปิดบังใบหน้า เพราะคิดว่าเป็นอาหารที่บรรทุกมาจนทำให้หญิงคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น
ล่าสุดในวันนี้ ( 9 พ.ค.) นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช้างป่าที่ก่อเหตุน่าจะเป็นช้างหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่มีอายุประมาณ 20-30 ปี และถือเป็นเรื่องแปลกเนื่องจากยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะการที่ช้างพยายามจะดึงคนให้ตกลงมาจากรถ เพราะที่ผ่านมาจะมีก็เพียงการใช้งวงลูบไล้ศีรษะของคนที่นั่งบนท้ายกระบะแต่ไม่ได้ทำอันตรายเท่านั้น
"เชื่อว่าพฤติกรรมในการขึ้นมาเดินหากินบนถนนของช้างป่า น่าจะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบช้างพลายที่เพิ่งล้มไปจากอาการแผลที่หางติดเชื้อ หรือ" เจ้าด้วนด่านลอย" ตามที่คนทั่วไปเรียกที่มักชอบมายืนขวางถนนเพื่อรอรับอาหารจากรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรที่ขับผ่านพื้นที่เป็นประจำ และมักจะหยุดรถให้เจ้าด้วนด่านลอย เข้ามาล้วงกินจนพอใจก่อนจะขับรถผ่านไป จนทำให้ช้างป่าตัวอื่นๆ เกิดความคุ้นชินกับรถยนต์ที่ขับผ่านเส้นทางและยังคงหยุดรถให้อาหารแก่ช้างซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ช้างป่า อาจจะเข้าใจผิดว่าคนที่นั่งมาด้านท้ายกระบะเป็นอาหารที่กินได้และถูกบรรทุกมาในรถ เนื่องจากมีการสวมหมวกปิดคลุมศีรษะจึงพยายามจะดึงลงมากิน"
นายอยู่ ยังฝากเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางสาย 3076 หรือ 3259 (เดิม) ให้ระมัดระวังอันตรายจากสัตว์ป่าโดยไม่ควรหยุดรถให้อาหารเพราะจะทำให้เกิดความคุ้นชินและไม่ยอมออกไปหากินนอกเส้นทาง ขณะเดียวกันยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลช้างป่าที่ออกมาหากินบนถนนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้เดินทางเข้าเยี่ยมดูอาการตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และพบว่าขณะนี้อการปลอดภัย