บุรีรัมย์ - หน.ป่าดงใหญ่ บุรีรัมย์รุดเยี่ยมลุงวัย 56 ปี ถูกกระทิงไล่ขวิดไส้ทะลัก กระดูกหักสาหัส ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะผู้ใหญ่บ้านตรวจจุดเกิดเหตุร่วม จนท. พบรอยเท้าคาดเป็นฝูงกระทิง 3 พ่อแม่ลูก แจ้งชาวบ้านเลี่ยงเข้าป่าหวั่นเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (7 พ.ค.) นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำกระเช้าเข้าเยี่ยม นายสมนึก อยู่ในวงศ์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านคลองโป่ง ตำบลลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกกระทิงป่าไล่ชนและขวิดทำร้ายขณะออกไปเก็บดอกกระเจียวบริเวณริมชายป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ด้านทิศตะวันตกบ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งม้ามแตก กระบังลมฉีกขาด ไส้ทะลัก กระดูกขาและนิ้วมือหัก จนต้องแกล้งเสียชีวิตจึงรอดออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (6 พ.ค.) ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง
ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเฝ้าระวังผลักดันไม่ให้ช้าง และกระทิงออกนอกเขตป่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและสัตว์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปลาดตระเวนภายในเขตป่าดงใหญ่พบฝูงกระทิงจำนวน 4 ตัวจึงได้บรรทุกภาพไว้ แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นฝูงเดียวกับที่ทำร้ายนายสมนึกหรือไม่
ขณะที่ นายชมพง สะบุตรดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกเพชร พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนชาวบ้านได้เข้าไปสำรวจจุดเกิดเหตุภายในบริเวณป่าชุมชนติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร โดยจากการเข้าไปสำรวจพบร่องรอยเท้ากระทิงป่าทั้งขนาดเล็กและใหญ่กระจายรอบจุดเกิดเหตุ ทั้งยังมีต้นไม้ถูกกระทิงชนล้ม และคราบเลือดตามเส้นทางที่ผู้บาดเจ็บพยายามตะเกียกตะกายออกไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งจากร่องรอยที่พบจึงคาดว่ากระทิงฝูงดังกล่าวมี 3 ตัวเป็นพ่อแม่ลูก
นายชมพง สะบุตรดี ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียงจะเข้าไปเก็บเห็ด ดอกกระเจียว และผักป่า เป็นประจำเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชุมชนติดเขตป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ และที่ผ่านมาชาวบ้านก็เคยเห็นกระทิงหลายครั้งแต่ไม่เคยทำร้ายชาวบ้าน ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ได้แต่สันนิษฐานว่าฝูงกระทิงดังกล่าวอาจจะเดินหากินมาเรื่อยๆ จนพลัดหลงออกมานอกเขตป่าหรืออาจจะมีลูกน้อย เมื่อเจอชาวบ้านอาจจะหวงลูกจึงได้ทำร้ายชาวบ้านเพื่อเป็นการปกป้องลูกตัวเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุได้ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้เข้าไปในป่าก่อนช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย เพราะยังไม่รู้ว่ากระทิงฝูงดังกล่าวจะกลับเข้าป่าไปแล้วหรือไม่
