เชียงใหม่ - ธปท.ภาคเหนือชี้วิกฤตหมอกควัน ทำสถิติคนเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ไตรมาสแรกปีนี้ลดครั้งแรกรอบ 8 ปี ยอดขายร้านอาหาร-ค้าปลีก ยันร้านริมทางลด แต่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้นตัวแล้ว
นางนวอร เดชสุวรรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ได้แถลงถึงภาวะเศรษฐกิจไตรมาสแรกของปี 62 ในภาคการท่องเที่ยวพบว่า ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกสัญชาติ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านด่าน ตม.ท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มขึ้น 28.8% เป็น 447,091 คน แยกเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 28% เกาหลีใต้ 15.2% ฮ่องกง 27.4% อเมริกา 39.8%
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาฝุ่นควันในเชียงใหม่ทำให้ผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่เดือนมีนาคม 62 ลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ห้วง 1-15 เม.ย.นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวลง โดยมีสถิติเพิ่มขึ้น 11% ขณะที่เดือนมีนาคม 62 เพิ่มขึ้น 32%
ด้านธุรกิจร้านอาหาร พบว่าไตรมาสแรกปีนี้ปริมาณลูกค้าลดลง 30% (โดยเฉพาะคนไทย) ร้านค้าปลีกลดลง 10-15% จากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ลดลง เช่นเดียวกับร้านอาหารริมทางที่ขายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ร้านขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคระดับบนไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้าตุน-ซื้อผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมภาวะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวขยายตัวจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival นอกจากนี้ยังมีการเปิดเส้นทางบินตรงมายังไทย
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังมีคุณภาพสูงขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น ปัจจุบันมีการขยายเส้นทางบินตรงระหว่างภาคเหนือของไทยกับจีนเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่ม FIT ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 70-80 ส่วนใหญ่นิยมมาซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้มีเวลาในการใช้จ่ายมากขึ้น ไม่ต้องเข้าร้านค้าที่บริษัททัวร์กำหนดไว้ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นจาก 20,000-30,000 บาท/คน/ทริป เป็น 30,000-40,000 บาท/คน/ทริป สะท้อนจากธุรกิจภัตตาคารจีนที่สามารถจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและราคา
ด้านเศรษฐกิจภาคเหนือ ธปท.ยังได้เผยแพร่รายงานเรื่อง “ทำไมนักท่องเที่ยวจีนมาเชียงใหม่ฟื้นตัวเร็ว” ด้วยว่า หลังเหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือน (กรกฎาคม-พฤศจิกายน 2561)
อย่างไรก็ตาม จ.เชียงใหม่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามา จ.เชียงใหม่หดตัวเพียง 2 เดือน คือกันยายน-ตุลาคม 2561 หลังจากนั้นก็กลับมาขยายตัวสูง 38% ในขณะที่ภูเก็ตและกระบี่ยังหดตัวอยู่
สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนในเชียงใหม่ฟื้นตัวเร็ว เนื่องจาก 1. โครงสร้างนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มด้วยตัวเองหรือ FIT 80% สูงกว่าของประเทศที่อยู่ในระดับ 60% ซึ่งกลุ่ม FIT ส่วนใหญ่อายุน้อย 21-30 ปี ตัดสินใจเร็ว หาข้อมูลท่องเที่ยวผ่าน application ทำให้รู้ว่าเชียงใหม่มีความปลอดภัยจึงตัดสินใจเข้ามาเที่ยว ทำให้ฟื้นตัวเร็ว
2. มีการเปิดเส้นทางบินตรงกับจีนต่อเนื่อง ปัจจุบันเชื่อมกับ 16 เมือง ล่าสุดต้นเดือนธันวาคม 2561 ก็เปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ ปักกิ่ง และหนานชาง ทำให้การเดินทางสะดวก จนสนามบินเริ่มมีข้อจำกัดด้าน capacity ทำให้บางส่วนกระจายตัวไปลงที่ จ.เชียงรายเพิ่มขึ้น
3. มีตั๋วเครื่องบินราคาถูกออกมาขาย หรือรู้จักในชื่อ “โปรไฟไหม้” ในช่วงที่ลูกค้าทัวร์ลดลง บริษัททัวร์จะนำตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ออกมาขายในราคาถูก ซึ่งกลุ่ม FIT จะเข้ามาทดแทนอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การแข่งขันของสายการบินทำให้ค่าตั๋วถูกลง
4. ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่ำสุด จากการสำรวจ 137 เมือง พบว่าเชียงใหม่ติด 1 ใน 10 เมืองที่มีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่ำที่สุด เทียบกับโตเกียวและโซลแล้วเชียงใหม่ต่ำกว่าถึง 5 และ 1.5 เท่า รวมทั้งเชียงใหม่ยังติด 1 ใน 10 เมืองที่ชาวจีนชื่นชอบบรรยากาศท่องเที่ยวแบบ slow life รวมทั้งอาหารและวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ
ด้านแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนใน จ.เชียงใหม่ คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามา จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่อง ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาไทยเป็นปลายทางอันดับ 1 ของจีน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน จ.เชียงใหม่ขยายตัวสูงตามที่ผู้ประกอบการคาดไว้ ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น จำนวนพาสปอร์ตจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันคนจีนมีพาสปอร์ตเพียง 10% ของประชากร การยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival และ การพัฒนา Thai e-Visa จะช่วยให้คนจีนขอวีซ่าได้ง่ายขึ้น