ศูนย์ข่าวศรีราชา - สวนนงนุชสุดปลื้ม หลังดอกบุกยักษ์ที่เพาะพันธุ์ไว้เมื่อ 10 ปีก่อนเบ่งบานถึงขีดสุด เผยจุดขายอยู่ที่กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพ ทำนักท่องเที่ยวแห่ชมและเหตุเพราะมีให้ชมเฉพาะที่สวนนงนุชและมีเฉพาะในป่าดิบชื้นล่างของเกาะสุมาตราตอนกลาง เพียงแห่งเดียวในโลก
เมื่อเร็วๆนี้ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานบริหารสวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายแอนเดรส รินสตรอม ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ไม้ ได้นำสื่อมวลชนเข้าชมดอก Titan Arum หรือดอกบุกยักษ์ ความสูง 1.50 เมตร ที่กำลังจะเบ่งบานในรอบ 12 ปี ซึ่งจัดแสดงบริเวณประตูทางเข้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างใกล้ชิด
หลังจากเมื่อ 10 ปีก่อน สวนนงนุชพัทยา ได้เพาะพันธุ์ต้นบุกยักษ์ไว้จำนวน 130 ต้น ที่นำมาจากสวนพฤกษศาสตร์โบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทดลองปลูกโดยมีสายพันธุ์ถิ่นกำเนิดในป่าดิบชื้นล่างในเกาะสุมาตราตอนกลาง เพียงแห่งเดียวในโลก และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus titanum ลักษณะพิเศษของมัน คือ เมื่อเบ่งบานจะส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงคล้ายกลิ่นซากศพ
กระทั่ง 1 ใน 130 ดอกได้มีการเจริญเติบโตเร็วกว่าต้นอื่น และกำลังจะเบ่งบานสุดเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายตลอดชั่วอายุของดอกบุก ถือเป็นการเฝ้ารอมานานถึง 12 ปี หลังจากที่ สวนนงนุชพัทยา ได้เพาะปลูกไว้จำนวน 3 ต้น และทั้งหมดได้ออกดอกเบ่งบานไปแล้วในปี 2546, 2549 และ 2550 และปัจจุบันดอกบุกทั้ง 3 ต้น ยังมีชีวิตและยืนต้นอยู่ได้แต่จะไม่สามารถที่จะเบ่งบานได้อีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้ จึงอยากเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ ร่วมชื่นชมกับการเบ่งบานของบุกยักษ์ไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากมีระยะเวลาหลังจากบานแล้วเพียง 1 วัน จากนั้นดอกจะหุบและไม่มีโอกาสเบ่งบานอีก
"หลังจากนี้คงต้องรอต้นรุ่นต่อไปที่ไม่อาจบอกล่วงหน้าได้เลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นดอกบุกยักษ์เบ่งบาน หรือได้สูดดมกลิ่นเน่าเหม็นของมันอีกเมื่อใด" นายกัมพล กล่าว