ศูนย์ข่าวศรีราชา - แหล่งข่าวหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ แจงเหตุสั่งระงับเรือนำเที่ยวนำนักท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังในหมู่เกาะแสมสาร เพราะพบความเสียหายเของแนวปะการังอย่างหนักจากการทิ้งสมอของเรือสปีดโบ๊ท
จากกรณีที่มีผู้ประกอบการโฮมสเตรย์รายหนึ่งในอ่าวแสมสาร ได้โพสต์ข้อความลงในโลกสังคมออนไลน์ พร้อมโพสต์ภาพหนังสือขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร ให้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวดำน้ำดูปะการังในพื้นที่งดการนำเที่ยวดำน้ำดูปะการังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2562 เป็นต้นไป จนทำให้ผู้ประกอบการโฮมสเตรย์ดังกล่าวได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีผู้จองทริปดำน้ำล่วงหน้า
จนเกิดกระแสวิพากษ์จารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการที่ผู้ประกอบการรายนี้สร้างกระแสดราม่าเกี่ยวกับการออกมาขอโทษลูกค้าที่ต้องงดกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง รวมทั้งการใช้เรื่องความจนของผู้ประกอบการและพนักงานที่ต้องตกงานมากล่าวอ้าง โดยไม่เห็นแก่สภาพแวดล้อมนั้น
ในวันนี้( 30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าว หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ เรื่องการแจ้งงดการนำนักท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังและงดถ่ายภาพทุกชนิดบริเวณพื้นที่โดยรอบหมู่เกาะแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-8 ส.ค.2562 ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร เพื่อให้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการว่า ปัจจัยสำคัญนอกจากจะเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมและเพื่อให้ปะการังได้ฟื้นฟูแล้ว
ยังเป็นเพราะการสำรวจสภาพความเสียหายของแนวปะการังบริเวณหมู่เกาะทั้ง 9 แห่งในพื้นที่แสมสาร ของเจ้าหน้าที่หน่วยซีล พบว่ามีความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากการทิ้งสมอของกลุ่มเรือสปีดโบ๊ทที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาดำน้ำดูปะการัง ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะชมรมผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท ไม่ทำตามข้อตกลงที่เคยเสนอต่อหน่วยงานที่จะควบคุมจำนวนไม่ให้เกิน 40 ลำ ซึ่งในวันนี้พบว่าจำนวนเรือสปีดโบ๊ทที่ให้บริการนำนักท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังในพื้นที่แสมสารมีมากกว่า 100 ลำ จนสร้างความเสียหายให้กับแนวปะการังโดยรอบเกาะต่างๆ จนต้องปิดให้บริการเพื่อฟื้นฟูเป็นการชั่วคราว
“สุดท้ายแล้วหากหน่วยงานทหารเรือที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวเห็นว่าเกิดความเสียหายกับแนวปะการังเป็นจำนวนมาก ก็อาจจำเป็นที่จะต้องยืดระยะเวลาการฟื้นฟูออกไปแบบไม่มีกำหนด เช่นเดียวกันหากกลุ่มผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท ไม่สามารถทำตามข้อตกลงเรื่องการควบคุมจำนวนเรือที่เคยให้ไว้ได้ สุดท้ายก็อาจจำเป็นต้องปิดการให้เข้าดำน้ำดูปะการังอย่างถาวร เพราะความเสียหายที่เกิดจากการทิ้งสมอเรื่อสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลเป็นอย่างมาก ” แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนั้นในวันนี้คณะกรรมการชมรมรักษ์ทะเลแสมสาร ยังได้เรียกผู้ประกอบการเข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขให้เป็นไปตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสารแจ้งมา ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมืออย่างดีจะมีก็เพียงผู้ประกอบการบางรายที่ได้รับการวางมัดจำไว้ล่วงหน้าที่จะต้องคืนเงินให้กับลูกค้าต่อไป
ด้าน นายอนุชัย สุขขารมย์ ประธานกลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ทะเลสัตหีบ และ Sattahip water sports academy ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำงานด้านอนุรักษ์พิทักษ์ทะเลสัตหีบ เผยว่าการปลูกซ่อมแซมแนวปะการังในพื้นที่ทะเลสัตหีบ รวมทั้งการกำหนดช่วงเวลาในการระงับการดูปะการังได้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการพักฟื้นฟูแนวประการัง อย่างไรก็ตามตามหากเลยช่วงฟื้นฟูแนวปะการังไปแล้ว ก็อยากให้หน่วยงานที่ดูแลเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงามของธรรมชาติในอ่าวสัตหีบ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการเจริญเติบโตของปะการังและสัตว์ในทะเลต่อไป
อนึ่ง แสมสาร ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเล ที่มีโลกใต้ทะเลเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ และสวยงาม จนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ในการดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล ตลอดจนยังเป็นชุมชนประมง ที่มีร้านอาหารทะเลไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีที่พักและรีสอร์ตตามแนวชายหาด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ แสมสาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง