xs
xsm
sm
md
lg

แฮกเฟซบุ๊ก/ไลน์อาละวาดหนัก พยาบาลนครพนมโร่แจ้งความ ถูกอ้างชื่อยืมเงินเหยื่อโอนนับแสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์ หรือวงแหวน อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลนครพนม ถูกแฮกเฟซบุ๊ก/ไลน์ ใช้ชื่อขอยืมเงินเพื่อนในกลุ่ม
นครพนม - มิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊ก/ไลน์ อาละวาดหนัก ล่าสุดพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลนครพนมถูกแฮกไปขอยืมเงินเพื่อนในไลน์และเฟซบุ๊ก จนมีเหยื่อหลงเชื่อหลายรายยอมโอนเงินให้รวมนับแสนบาท โร่แจ้งตำรวจตามลากตัวมาดำเนินคดี

วันนี้ (29 เม.ย.) น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์ หรือวงแหวน อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าตึกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ และ wond center โรงพยาบาลนครพนม เดินทางมาให้ปากคำต่อ ร.ต.อ.สิทธิชัย จันโทศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อมิจฉาชีพที่แฮกเฟซบุ๊กและไลน์หลอกยืมเงินคนรู้จัก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนหลายคนทั้งในที่ทำงานและต่างจังหวัดได้โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า มีการทักไลน์เพื่อไปขอยืมเงินจำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสน โดยส่งข้อความสนทนาคุยกันพร้อมกับหมายเลขบัญชีธนาคาร

หลังจากโอนเงินไปให้แล้วก็ยังทักมาขอเพิ่มอีก สงสัยจึงโทรศัพท์สอบถาม จากนั้นตนพยายามเข้าเฟซบุ๊กและไลน์ตัวเองแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงรู้ว่าถูกแฮกเฟซบุ๊กและไลน์เข้าแล้ว จึงเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองนครพนม และนัดกับกลุ่มผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนเงินไป มาร่วมให้ปากคำในวันต่อมา

น.ส.อรรจจิมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. มาเข้าเวรทำงานที่โรงพยาบาลนครพนมตามปกติ เวลาประมาณ 11.00 น. หลานสาวทักเฟซบุ๊กมาว่ามีความจำเป็นต้องการเงิน 4,000 บาท ด่วนที่สุด โดยแนบหมายเลขที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต ชื่อบัญชี น.ส.นูรี งานแข็ง ก็ไม่ได้เอะใจ จึงโอนไปให้

อีก 5 นาทีต่อมาหลานสาวทักมาอีกว่าไม่พอโอนมาเพิ่มอีก 6,000 บาท ตนก็โอนให้ไป ประมาณ 10 นาที คราวนี้หลานทักมาว่าขอเพิ่มอีก 10,000 บาท เพราะเงินไม่พอจริงๆ คราวนี้เปลี่ยนเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาภูเก็ต มีชื่อนายดุสิต พ่วงบูรณ์ เป็นเจ้าของบัญชี ตนก็โอนให้โดยไม่คิดระแวง


ห่างไปประมาณ 30 นาที น.ส.นภัทร อินทร์ติยะ หรือแหลม อายุ 47 ปี พยาบาลวิสัญญี โรงพยาบาลนครพนม ขับรถมาหาตนที่โรงพยาบาลเพื่อจะสอบถามว่ามีปัญหาอะไรถึงต้องใช้เงินหลายหมื่นบาท ตนก็ตอบว่าไม่มีปัญหานะ น.ส.นภัทรจึงเปิดไลน์การสนทนาให้ดู ว่ามีการขอยืมเงินครั้งแรกโอน 4,000 บาท พอโอนเสร็จก็ทักขอเพิ่มอีก 6,000 บาท เมื่อโอนไปก็จะขออีก 10,000 บาท

น.ส.นภัทรจึงเอะใจ ขับรถมาถาม โดยโอนไปบัญชีของคนชื่อนายดุสิต พ่วงบูรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาภูเก็ต ซึ่งเป็นบัญชีเดียวกับที่ตนโอนไปให้หลานสาว เมื่อโทรศัพท์ถามหลานจึงรู้ว่าถูกแฮกข้อมูลด้วยกันทั้งคู่

มิจฉาชีพไม่หยุดแค่นี้ ได้ทักขอยืมเงินเพื่อนวิชาชีพเดียวกันที่อยู่ต่างจังหวัดรวมแล้ว 38 ราย มีบางรายเชื่อก็โอนเงินให้ไป และยิ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าหนัก เมื่อมิจฉาชีพได้ทักไลน์ไปหา น.ส.พิมพ์ใจ ดีวงศ์ หรือเหมย อายุ 46 ปี ซึ่งมีพ่อป่วยเป็นโรคไต กำลังจะนำพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดอุดรธานี

มิจฉาชีพใช้ไลน์ตนขอยืมเงินรวมทั้งสิ้น 34,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ น.ส.เหมยจะต้องนำไปจ่ายค่ารักษาให้พ่อ แต่เห็นว่าตนมีปัญหาเดือดร้อน และจะโอนคืนไม่เกิน 17.00 น.ของวันเดียวกัน จึงโอนให้ทั้งที่ไม่เคยยืมเงินกันมาก่อน พอมาทราบว่าตนถูกแฮกข้อมูล น.ส.เหมยถึงกับเป็นลม เพราะไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลพ่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี และคนร้ายใช้บัญชีของนายดุสิตเหมือนกันหมด

นอกจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้ยังไปทักไลน์ นพ.พิพัฒน์ ชัยสุนทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ซึ่งเคยอยู่โรงพยาบาลนครพนมมาก่อน ปัจจุบันย้ายไปอยู่โรงพยาบาลมุกดาหารขอยืมเงินหลายแสนบาท แต่คุณหมอพิพัฒน์ไม่หลงกล เพราะเห็นการคุยไลน์ของคนร้ายที่ใช้ไลน์ของตนนั้น มีคำที่แข็งกระด้าง คุณหมอไม่เชื่อว่าคนที่คุยด้วยเป็นตน เลยโทรศัพท์มาถามจึงทราบความจริง

น.ส.อรรจจิมาเล่าว่า ช่วงเวลาก่อนเที่ยงคุยเฟซบุ๊กกับหลานสาวได้ปกติ แต่หลังจากตนโอนเงินให้หลานไปรวมเป็นเงิน 20,000 บาทแล้ว ปรากฏว่าเวลา 12.11 น.ทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ตนไม่สามารถเข้าไปได้ มาทราบทีหลังว่ามิจฉาชีพใช้ไลน์ตนไปขอยืมเงินคนที่รู้จัก

ด้าน ร.ต.อ.สิทธิชัย จันโทศิริ ร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม หลังสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว จะมีหนังสือเชิญตัวบุคคลที่ชื่อนายดุสิต และ น.ส.นูรี ที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น