xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปากเถ้าแก่ต่างถิ่น ทุ่มทุนซื้อตึกย่านตลาดอัศวินลำปาง ทำ“บ้านนกนางแอ่น”กลางชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ลำปาง – เปิดปากเถ้าแก่ต่างถิ่น ลงทุนซื้อตึกย่านการค้า “ตลาดอัศวินลำปาง” ต่อเติม-เปิดเสียงล่อนกนางแอ่น จนถูกเทศบาลนครลำปาง ปิดประกาศห้ามใช้อาคาร อ้างหลายจังหวัดก็ทำกัน เชื่อไม่เป็นปัญหา-พร้อมทำตามกฎหมาย



หลังมีการนำเสนอข่าว นายทุนต่างถิ่นลงทุนซื้ออาคารพานิชย์ เลขที่ 260/217-218 ซอยตลาดอัศวิน ถนนท่าคราวน้อย เทศบาลนครลำปาง ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจการค้า และแหล่งท่องเที่ยวกลางเมืองลำปาง นำมาต่อเติมทำเป็น “บ้านนกนางแอ่น” จนทำให้ชาวเมืองลำปาง พากันวิตกกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมานั้น

ล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลนครลำปาง ได้นำประกาศคำสั่งเทศบาลฯ 2 ฉบับมาติดบริเวณหน้าอาคารดังกล่าวทั้ง 2 คูหา ประกอบด้วย คำสั่งห้ามใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคารหรือบริเวณอาคาร ตามมาตรา 40(2) พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามมิให้ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนที่ทำการดัดแปลงอาคารทั้งหมด ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

รวมทั้งคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 40 (1) และคำสั่งให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารหรือดำเนินการแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 41 ภายใน 30 วัน

แต่แม้ว่าเทศบาลนครลำปาง จะปิดประกาศให้ระงับการใช้อาคารดังกล่าวแล้ว แต่เช้าวันนี้(27 เม.ย.) ภายในอาคารยังคงมีการเปิดเสียงเรียกนกเข้าอาคารและระบบต่างๆในอาคารยังคงทำงานตามปกติเช่นเดิมโดยไม่มีการยุติแต่อย่างใด

ขณะที่ชาวบ้านในซอยดังกล่าว เมื่อเห็นประกาศของเทศบาลนครลำปาง ซึ่งออกโดยนายกิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ เพราะแม้จะมีคำสั่งให้ระงับการใช้อาคารเป็นการชั่วคราว แต่ก็เป็นเพียงการรอให้เจ้าของไปขออนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น และแม้ว่าจะมีคำสั่งห้ามมิให้ใช้อาคารดังกล่าวในระหว่างนี้ แต่ความจริงแล้วคือ เจ้าของอาคารก็ยังไม่หยุดในการที่จะเปิดเสียงเรียกนกเข้าอาคาร และหยุดระบบต่างๆที่ทำขึ้นในอาคารแต่อย่างใด

และที่ชาวบ้านสงสัยคือ เมื่อเจ้าของอาคารไปยื่นขออนุญาต เทศบาลนครลำปาง จะอนุญาตให้ใช้อาคารดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดกับที่พักอาศัยของคน ทำเป็นบ้านนกนางแอ่นหรือไม่

ทั้งนี้ชาวบ้านในซอยดังกล่าว ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการประกอบธุรกิจเลี้ยงนกในอาคารอย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่เริ่มต้น คนที่อาศัยอยู่ติดกับห้องดังกล่าวก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้วคือ เสียงนกร้องที่รบกวน เรื่องโรคที่จะตามมาจากนก และเรื่องกลิ่นของมูลนก-ของเสียต่างๆที่ถูกถ่ายออกมาจากบ้านนกแล้วปล่อยลงท่อระบายน้ำของชุมชน

นางละออ พรมอนันต์ อายุ 66 ปี (เสื้อสีม่วง) ซึ่งพักอาศัยติดกับบ้านนก ระบุว่าตอนแรกที่เจ้าของมาต่อเติมอาคาร ตนก็เคยถาม เขาก็บอกว่าจะทำเป็นสำนักงานเท่านั้น ตนจึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งทำเสร็จและเริ่มมีคนสังเกตุว่านกนางแอ่นมาจากไหนไม่รู้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยมีนกบินมาในอาคารนี้ และเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งตนก็ได้ยินเสียง

“จนเพื่อนบ้านมาบอกว่ามีการเลี้ยงนกในอาคาร ทุกคนจึงตื่นตัว และคงต้องคัดค้าน เพื่อไม่ให้ทำ กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะขณะนี้ตนซึ่งมีที่พักอยู่ติดกัน ก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้วคือ เสียงนก และกลุ่มนกที่เริ่มมามากขึ้น กลิ่นก็เริ่มมีแล้ว ต่อไปหากนกมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งอื่นๆที่จะตามมา ก็ต้องมีแน่นอน เพื่อนบ้านซึ่งป่วยและภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้ อยากให้ไปทำที่อื่นไม่อยากให้มาทำที่นี่”

ด้านนายรัชเขต จิยางกูร เจ้าของอาคารดังกล่าว กล่าวว่าตนยังไม่ทราบเรื่องคำสั่งเทศบาลฯ เพราะตั้งแต่มีการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ตนก็ยังไม่ได้เข้าไปที่อาคารแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยในการที่มาสร้างบ้านนกในชุมชนว่ายังจะทำต่อหรือไม่ นายรัชเขต กล่าวว่าคงต้องดูข้อกฎหมายหลายๆอย่างก่อน

และเมื่อถามว่าทำไมถึงมาเลือกอาคารย่านตลาดอัศวิน ทำบ้านให้นก นายรัชเขตกล่าวว่า จุดนี้เป็นแหล่งที่มีนก ซึ่งชาวบ้านอาจจะไม่สังเกตุ เพราะนกก็จะบินอยู่เยอะเหมือนกัน เมื่อไม่สังเกตุจึงไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร ส่วนที่ชาวบ้านคัดค้านจะไม่ให้ทำนั้น ก็คงต้องมาดูกันว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเรื่องอะไร กลิ่น เสียงหรืออะไร เพราะทุกวันนี้หลายจังหวัดก็ทำกันและก็อยู่ในชุมชนเช่นกัน เพราะนกจำพวกนี้จะอยู่ในชุมชนก่อนครั้งแรก

“ที่เข้ามาทำและไม่ได้บอกชาวบ้านก่อนหน้านี้ เพราะคิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไร เสียงนกก็ไม่ดังมาก ด้านสาธารณสุขก็ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโรคอะไร ส่วนนกตนเองก็ไม่ได้จับมาเลี้ยง นกบินมาเอง ซึ่งนอกจากลำปางแล้วก็ยังทำที่จังหวัดอื่นด้วยและก็ไม่มีปัญหาเรื่องชุมชนแต่อย่างใด ทั้งนี้ก็คงดูเรื่องข้อกฎหมายเป็นหลักก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้” นายรัชเขตกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น