ศรีสะเกษ- ผบ.เรือนจำเผยจับผู้ต้องหารุมตีหนุ่มเมาแล้วขับตายในคุกแล้ว 4 ราย ขณะแม่เหยื่อโหดขอบคุณอธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้การฯ ตำรวจศรีสะเกษที่ช่วยเหลือ
วันนี้ ( 27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.9 บ้านนิคมหนองฉลอง ต.หนองฉลอง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า ลูกชายคือ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 25662 ช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ ในเขตพื้นที่ สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาวันที่15เม.ย. 2562 ได้ถูกส่งตัวไปศาลจังหวัดศรีสะเกษโดยศาลสั่งปรับข้อหาเมาแล้วขับเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินเสียค่าปรับจึงได้ติดคุกแทนค่าปรับ ตั้งแต่วันที่15 เม.ย. 2562 ต่อมาเช้าวันที่18 เม.ย. 2562 ได้รับแจ้งว่า นายพรหมปัญญา ขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษแทนค่าปรับ ได้เสียชีวิตแล้วที่สถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุดได้มีการออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาไปแล้ว 1 ราย และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อนั้น
ล่าสุดที่เรือนจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของผู้ต้องกักขังที่เสียชีวิตและ นางเทวรรณ์ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้านนิคมหนองฉลอง ม.9 พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาพบกับ นายอุทัย ทัพอาสา ผู้บัญชาการเรือนจำ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอดูภาพในกล้องวงจรปิดของสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ที่บันทึกภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุในคืนวันที่ 17 เม.ย. 62 เอาไว้ เนื่องจากแม่และญาติพี่น้องทุกคนติดใจว่า เพราะเหตุใดนายพรหมปัญญา จึงได้ถูกรุมทำร้ายร่างกายจนทำให้เสียชีวิต
นายอุทัยได้ชี้แจงให้แม่ของนายพรหมปัญญากับญาติทุกคนทราบว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนของกรมราชทัณฑ์ กำลังดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ และทราบสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันในเรื่องนี้แล้ว โดยเป็นการรุมทำร้ายร่างกายของนายพรหมปัญญาจนทำให้นายพรหมปัญญาเสียชีวิตดังกล่าว
นายอุทัย ทัพอาสา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ดำเนินการสอบสวนคดีนี้และได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว จำนวน 4 รายด้วยกัน ประกอบด้วย นายสามารถ มีคุณ นายวสันต์ วงศ์สุวรรณ นายสุพรรณ อนุสรณ์ และนายอมรณัฐ นวลเท่า ซึ่งผู้ต้องหาทุกรายเป็นเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน โดยขณะนี้ได้นำตัวของผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับแยกมาขังไว้ที่เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ เพื่อป้องกันการข่มขู่พยานที่อยู่ในห้องกักขังเดียวกัน และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกรายตามกฎหมายต่อไปแล้ว
นายอุทัย ยังกล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้กรุณาจัดสรรงบประมาณมาให้เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 150,000 บาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงต่อเติมสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ โดยตนได้จัดสร้างห้องขังแยกผู้ต้องขังที่เป็นพวกติดสุราเรื้อรังออกจากผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากว่าผู้ต้องขังกลุ่มนี้เป็นพวกจิตใจแปรปรวนได้ง่าย และมักจะมีเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันในห้องกักขังเป็นประจำ ส่วนนายพรหมปัญญาที่เสียชีวิตนั้น จะได้ประสานงานกับหน่วยเหนือเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ทางด้าน นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี กล่าวว่า เมื่อได้รับฟังการชี้แจงจาก ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ แล้ว ตนและญาติพี่น้องทุกคนมีความพอใจแล้ว และไม่ต้องการที่จะดูกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกต่อไป ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์, พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ และผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ให้การช่วยเหลือจนทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายที่รุมฆ่าลูกของตนได้ทั้งหมดทุกคน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
