ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตร.ขอนแก่นแถลงจับ “ตั้ม ไส้แตก” พร้อมเพื่อนสาว หลังร่วมฆ่า “น้องเอ๋ย” แล้วนำศพทิ้งห้วยพระคือ ขณะผู้ต้องหากำลังเดินทางมาจาก จ.ตราด และ จ.สุรินทร์ เผย “ไอ้ตั้ม” มีคดีติดตัวอื้อ ที่โหดสุดตอนอายุ 19 ปาดคอแท็กซี่ชิงทรัพย์
จากกรณีนายธงชัย กลางเมือง หรือ “ตั้ม ไส้แตก” ใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิง น.ส.ปัชญา ปวงสุข หรือน้องเอ๋ย อายุ 22 ปี ชาว ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เสียชีวิตคาห้องพักคอนโดมิเนียมกลางเมืองขอนแก่น แล้วช่วยกันกับเพื่อนสาวอุ้มศพไปทิ้งห้วยพระคือ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ญาติได้แจ้งความหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. 62 ต่อมาบ่ายวันที่ 24 เม.ย.มีผู้พบศพลอยขึ้นอืด ขณะที่นายธงชัยและเพื่อนสาวได้แยกย้ายกันหลบหนี
โดยเมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (25 เม.ย.) พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผบก.ภ.จว.ตราด ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด สามารถติดตามจับกุมตัวนายธงชัยได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง การติดตามจับกุมครั้งนี้แกะรอยจากพิกัดการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาและในช่วงเช้าวันนี้ (26 เม.ย.) นายธงชัยถูกนำตัวกลับจังหวัดขอนแก่นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดี
ล่าสุดก่อนเที่ยงวันเดียวกันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคําไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายธงชัย กลางเมือง หรือฉายาที่รู้จักในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดว่า “ตั้ม ไส้แตก” อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่11 ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 8 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่า น.ส.ปัชญา ปวงสุข หรือน้องเอ๋ย
โดยตำรวจได้นำของกลางซึ่งประกอบด้วย จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไอ 110 สีเทา-น้ำเงิน ทะเบียน 1 กศ 1380 ขอนแก่น พาหนะขนศพน้องเอ๋ยไปทิ้งลำห้วย, จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน 1 กด 7717 ขอนแก่น เป็นจักรยานยนต์ของน้องเอ๋ย และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้ต้องหาที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ขณะที่แถลงข่าวตัวผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการเดินทาง
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคําไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 03.50 น. หลังจากที่นายธงชัย ผู้ต้องหาที่ 1 และ น.ส.ธรรมภัสสร ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.ปัชญา ผู้ตาย และนายอธิป พุทธสงกรานต์ พยาน ได้กลับจากไปเที่ยวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้พากันมาตั้งวงดื่มสุราต่อที่ห้องพักของนายธงชัยที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งริมถนนกลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น
ขณะนั่งดื่มสุราด้วยกันนั้น นายธงชัยไม่พอใจผู้ตายที่เข้าไปพูดคุยและถ่ายภาพเซลฟีกับผู้ชายคนอื่นขณะอยู่ที่ร้านอาหาร และนายธงชัยคิดไปเองว่าผู้ตายอาจจะไปแจ้งหน้าที่ตำรวจมาจับตนที่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นประจำ จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ต่อมาขณะที่นายธงชัย น.ส.ธรรมภัสสร และผู้ตายยังนั่งอยู่ภายในห้อง ส่วนนายอธิปลุกไปเข้าห้องน้ำ นายธงชัยได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ไม่ทราบขนาด ยิงที่ศีรษะของผู้ตาย 1 นัด จนเสียชีวิต ซึ่ง น.ส.ธรรมภัสสรก็นั่งอยู่ด้วยกัน
หลังจาก น.ส.ปัชญาเสียชีวิตแล้ว นายธงชัย และ น.ส.ธรรมภัสสร ได้ร่วมกันนำศพผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองน้ำห้วยพระคือ บ้านพระคือ หมู่ 16 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ห่างจากคอนโดฯ ที่ก่อเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่ออำพรางศพ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายตั้มหนีไปที่ จ.ตราด ส่วน น.ส.ธรรมภัสสร หนีไปที่ จ.สุรินทร์ ก่อนจะถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
สำหรับนายตั้ม ผู้ต้องหาที่ 1 จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 2552 เคยร่วมกับเพื่อนก่อเหตุใช้คัตเตอร์ปาดคอนายทองใบ ปาเบ้า อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.4 ต.หนองบัวบาน อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ คนขับรถแท็กซี่ ในท้องที่ สน.ประเวศ โดยนายตั้มขณะนั้นอายุ 19 ปี และเพื่อน 1 คน อายุ 17 ปี