อุดรธานี - รวบหนุ่มโคราชอ้างเป็นนายทหารชื่อ “เสธ.หมึก” หรือ “เสธ.เข้ม” หลอกกลุ่มแท็กซี่เข้าไปรับส่งผู้โดยสารในสนามบินอุดรฯ ได้แลกค่านายหน้า 8,000 บาท/ราย ร้านทำข้าวกล่องก็เจอสูญเงินหลายหมื่น เช็กประวัติมีหมายจับหลายโรงพัก
วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี นำโดย พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.ศราวุธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีจับกุม นายอัศจรรย์ พิทักษ์วิภูบุตร หรือ พิชา ดีขุนทด บ้านเลขที่ 215 หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงประชาชน”
พร้อมยึดของกลางโทรศัพท์มือถือรุ่น SAMSUNG GALAXY A6 จำนวน 1 เครื่อง บัตรข้าราชการระบุชื่อ ร้อยโทวิชัย สีมาพล จำนวน 1 ใบ
พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยถึงที่มาของการจับกุมผู้ต้องหารายนี้สืบเนื่องจากมีคนแอบอ้างเป็นทหาร เรียกตัวเองว่า “เสธ.หมึก” หรือ “เสธ.เข้ม” มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ เช่น กลุ่มรถแท็กซี่ 1 โดยหลอกลวงว่าสามารถนำรถแท็กซี่ไปรับ-ส่งภายในท่าอากาศยานอุดรธานีได้ อ้างว่ารู้จักผู้อำนวยการท่าอากาศยานอุดรธานีเป็นอย่างดี แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายรายละ 7,000-8,000 บาท/คน
การหลอกลวงแอบอ้างดังกล่าวมีคนหลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งเปิดไว้ที่กรุงเทพฯ จำนวน 4 ราย นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้ชักชวนติดต่อกลุ่มเพื่อนให้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเข้ารับ-ส่งผู้โดยสารถึงในสนามบินอุดรฯ โดยมีค่าใช้จ่าย 13,000-14,000 บาท/ราย มีคนหลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีให้เช่นกัน
นอกจากนี้ นายอัศจรรย์ยังหลอกลวงประชาชนอีกหลายกลุ่ม ล่าสุดได้เข้าไปดูข้อมูลในเฟซบุ๊กของร้านทำข้าวกล่อง-อาหารว่าง ในชื่อเฟซบุ๊ก “ข้าวกล่องอร่อยจัง” และได้ทักไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นนางพร้อมพรรณ จันทมุขตระกูล เจ้าของร้าน ได้ติดต่อพูดคุยกัน ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นข้าราชการทหารชื่อ เสธ.เข้ม หรือเสธ.หมึก เป็นทหารอยู่ในพื้นที่อุดรธานี โดยใช้อุบายหลอกลวงว่าทางค่ายทหารมีโครงการอบรมใน ม.ราชภัฏอุดรธานี ระยะเวลาอบรม 30 วัน ได้ตกลงกับผู้เสียหายว่าจะให้รับทำข้าวกล่องวันละ 600 กล่อง พร้อมอาหารว่าง หลังจากได้ตกลงกัน ผู้ต้องหาได้เดินทางไปพบนางพร้อมพรรณที่บ้าน โดยใช้รถยนต์ตู้มีพลขับเพื่อตกสัญญาจ้าง ซึ่งในขั้นต้นนางพร้อมพรรณได้โอนเงินให้เสธ.เข้ม ที่อ้างว่าเป็นค่านายหน้าประมาณ 20,000-30,000 บาท
หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็ทำตามสัญญาไม่ได้ ไม่ได้ทำข้าวกล่องส่งสักที ซ้ำยังบ่ายเบี่ยงหลอกไปอีกว่าจะฝากงานให้ลูกสาวของนางพร้อมพรรณที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี เหมือนที่เคยหลอกกลุ่มแท็กซี่ไว้ นางพรรณีและลูกสาวจึงแปลกใจว่าทำไม เสธ.เข้มไม่ติดตามงานทำข้าวกล่อง พยายามบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่ทวงถาม จนในที่สุดรู้ว่าถูกหลอก จึงได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองอุดรธานี
หลังรับแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าชายดังกล่าวมีพยานเห็นว่ามีแท็กซี่เคยไปรับ-ส่งในคอนโดลุมพินีเพลส จึงได้ตรวจสอบจากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิดเวลาเข้าออก และได้วางแผนเข้าจับกุม
เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรยังพบอีกว่าผู้ต้องหาคนเดียวกันนี้ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดเดชอุดม คดีแต่งเครื่องแบบทหารโดยไม่มีสิทธิ และหมายจับ สน.วัดพระยาไกร คดีฉ้อโกง