ผกก. ศรีราชาเยี่ยมคนเจ็บ เผยหากตำรวจอาสาผิดจริง ต้องถูกลงโทษ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้กำกับการ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาขอตรวจค้นรถต้องสงสัย แล้วล้มได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือ เบื้องต้นเผยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาผิดจริงต้องถูกลงโทษ ขณะที่ญาติคนเจ็บเตรียมแจ้งความดำนินคดี

จากเหตุการณ์ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ขาลาย ยางซิ่ง ได้เผยแพร่ภาพสดเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ของคืนวันที่ 11 เมษายน 2562 ความยาวประมาณ 14 นาที เป็นเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา สภ.ศรีราชา ขี่จักรยานยนต์ไล่ขอตรวจค้นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจนล้มลงเป็นเหตุให้ นายเกษม ชูรัตน์ อายุ 39 ปี ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 12 เม.ย. ) ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง มาสอบสวนเหตุการณ์ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนคดี หลังจากนั้น พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เข้าเยี่ยม นายเกษม ชูรัตน์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้วที่อาคารบรมราชชนนี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

โดยพบว่านายเกษม ยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่พยาบาลเพื่อรอการผ่าตัดขาทั้งสองข้างที่หักอยู่ โดยผู้กำกับ สภ.ศรีราชาได้สอบถามอาการและรายละเอียดในวันเกิดเหตุจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งมอบกระเช้าผลไม้และเงินช่วยเหลือส่วนตัว ในด้านมนุษยธรรมเบื้องต้น ให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย

โดย พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้หลังจากทราบเรื่องก็ได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชารายงานเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจึงเดินทางมาแสดงความห่วงใยในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นน้ำใจในด้านมนุษยธรรม

จากคำให้การของทั้งสองฝ่ายยังขัดแย้งกันอยู่ ในเรื่องที่ผู้ได้รับบาดเจ็บบอกว่าเจ้าหน้าที่อาสามีการถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม ส่วนเจ้าหน้าที่อาสาบอกไม่ได้ถีบ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ให้ความเป็นธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสามีความผิดจริงตามที่กล่าวอ้าง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากกระทำความผิดก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายด้วยกันทุกคน ไม่มีละเว้น ซึ่งก็ต้องอยู่ที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแหลมฉบัง เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุด้วย

สำหรับตำรวจอาสาที่อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว คือ นายชลวรรณ พลท้าว อายุ 28 ปี เป็นคนจังหวัดเลย ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ตู้ยามผาแดง สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรีล

ด้าน นายสุรชัย ชูรัตน์ พี่ชาย เปิดเผยว่า ตนเองและญาติอยู่สมุทรสาคร โดยทราบข่าวจากคลิปที่แชร์กันอยู่ในอินเทอร์เนต จึงรีบเดินทางมาดูอการน้องชายที่โรงพยาบาล ก่อนที่จะไปดำเนินการขอรับรถคืนที่ สภ.แหลมฉบัง ก่อนที่จะมาสอบถามเหตุการณ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

แต่จากการพูดคุยกับน้องชายเปิดเผยว่า น้องของตนเองไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ท่าเรือไซโล ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์ออกมาจากซอยดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างนั้นก็มาเจอกับตำรวจอาสาที่บริเวณแยกท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ น้องชายตนเองได้ขี่จักรยานยนต์ข้ามฝั่งไปฝั่งขาเข้าแหลมฉบัง แล้วตำรวจอาสาที่มาด้วยกัน 2 คันก็เรียกให้จอด แต่น้องชายตนเองกลัว

เนื่องจากอยู่คนเดียว จึงขี่จักรยานยนต์หนีไป โดยตั้งใจจะไปหาเพื่อนที่เป็นกู้ภัยในบริเวณใกล้เคียง แต่ตำรวจอาสาได้ขี่จักรยานยนต์ตามไป จนถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ล้มลงในบริเวณดังกล่าว โดยน้องชายบอกว่าที่รถจักรยานยนต์ล้มเนื่องจากถูกตำรวจอาสาถีบทำให้เสียหลักล้มลง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็จะต้องแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายต่อไป