ลำปาง - เยาวชน 13 อำเภอทั่วลำปาง ขึ้นเวทีโชว์ลีลาการตีก๋องปู่จา ชิงถ่วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เสียงดังกระหึ่มทั่วเมือง ขณะที่ “ทีมเยาวชนอำเภองาว” ยังรั้งแชมป์ไว้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และนางจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันเปิดการแข่งขัน “การตีก๋องปู่จา ปีที่ 18” คืนที่ผ่านมา (9 เม.ย.) ที่สวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในงานเทศกาลประเพณี “สลุงหลวง กลองใหญ่ ปี๋ใหม่เมือง นครลำปาง” ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดลำปางร่วมกันจัดขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อสืบสาน สืบทอด อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองรถม้า ตลอดจนเป็นเวทีแลกเปลี่ยนการเรียนรู้และประสบการณ์ ด้านการตีก๋องปู่จาร่วมกันระหว่างกลุ่มเยาวชนจากทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดลำปาง ด้วยการให้เด็กและเยาวชนได้ออกมาแสดงทักษะ ความรู้ความสามารถในการตีก๋องปู่จา อันจะเป็นการส่งเสริมกระตุ้นให้ชุมชน และเยาวชนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และเข้ามามีส่วนร่วมในการสานต่อองค์ความรู้ด้านการตีก๋องปู่จา เพื่อที่จะสืบสาน สืบทอด อนุรักษ์ และฟื้นฟู “การตีก๋องปู่จา” ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมประจำถิ่นของเมืองรถม้าให้ดำรงคงอยู่คู่กับนครลำปางสืบไป
โดยมีเยาวชนในจังหวัดลำปาง จากทั่วทั้ง 13 อำเภอ รวมจำนวนมากกว่า 250 คน ที่มีความสามารถในการตีก๋องปู่จา ได้รวมตัวกันจัดตั้งทีมเป็นตัวแทนของแต่ละอำเภอ เข้าร่วมทำการแข่งขันที่จัดขึ้นเพียงประเภทเดียว คือ แบบประเภททีม ซึ่งในพิธีเปิดงานเป็นการแข่งขันในรอบคัดเลือก ทางคณะกรรมการฯ ได้ทำการคัดเลือกทีมที่มีฝีมือการตีก๋องปู่จาดีที่สุดจากทั้งหมด 13 ทีม คัดให้เหลือเพียง 3 ทีม เข้าไปทำการแข่งขันปะลองฝีมือกันในรอบสุดท้าย และคัดเลือกให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเป็นสุดยอดทีมฝีมือด้านการตีก๋องปู่จาของจังหวัดลำปาง
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมเยาวชนจากอำเภองาว ยังสามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้ คว้ารางวัลชนะเลิศติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนบำรุงทีม 30,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ และถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมเยาวชนจากอำเภอเกาะคา ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนบำรุงทีม 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมเยาวชนจากอำเภอวังเหนือ ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนบำรุงทีม 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ
