นครปฐม - ชนสยอง 5 คัน บน ถนนมาลัยแมน บริเวณหน้า ม.ราชภัฏนครปฐม มีผู้เสียชีวิต 1ราย บาดเจ็บ 4 ราย รถพังอีกหลายคัน
ค่ำวันนี้(9 เม.ย.) ร.ต.อ. วันชัย พุฒิเอก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุรถชนกัน 3 คัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่ถนนมาลัยแมน ตำบลวังตะกู อำเภอเมืองนครปฐม หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม บริเวณหน้าเซเว่น อีเลเว่น มีผู้ติดภายใน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม แพทย์เวร รถกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุบริเวณถนนสายมาลัยแมน ฝั่งขาออกตัวเมืองนครปฐม มุ่งหน้าไปทางอำเภอกำแพงแสน หน้าร้านแว่นตา ติดกับธนาคาร ธกส. เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และนำอุปกรณ์ส่องสว่าง และอุปกรณ์ตัดถ่างช่วยผู้บาดเจ็บที่ติดภายในรถกระบะ และพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน กย 938 นครปฐม
สภาพรถด้านหน้าและหลังถูกเสียหาย จอดแน่นิ่งชนประตูเหล็ก ด้านหน้ารถพบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมกางเกงขายาว สวมเสื้อสีฟ้า บนศีรษะมีบาดแผลสมองเปิด คาดว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม ห่างมาเล็กน้อยด้านซ้ายพบรถ จักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงิน สภาพช่วงหลังเครื่องได้รับความเสียหายจอดล้ม ด้านหลังรถฟอร์จูนเนอร์ ถัดไป พบรถตู้ สีขาวหมายเลขทะเบียน 30-0378 กาญจนบุรี สภาพรถแถบซ้ายเสียหายทั้งแถบ
ประตูหลุดร่วงลงมา ด้านข้างรถยุบ กระจกแตกละเอียด และข้างประตูโดยสารพบรถจักรยานยนต์ เวฟ สีน้ำเงิน สภาพรถเสียหายเกือบทั้งคัน มีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 รายเป็นหญิง 2 ราย บริเวณใกล้เคียงกัน ยังพบรถกระบะ สีขาวหมายเลขทะเบียน 6 กต 297 กทม.สภาพรถด้านคนขับเสียหายทั้งแถบ ล้อหลังหลุด ส่วนคนขับรถกระถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ นครปฐม รักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน ทราบชื่อต่อมานายอุดร รุ่งเรือง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอควบคุมตัวเอาไว้ก่อนคาดว่าเป็นผู้ขับรถให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนหลายคันจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ทำให้การจราจรบนถนนมาลัยแมน 4 เลนเกิดการติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเพื่อช่วยระบายรถนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงทำให้การจราจรเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งศพผู้เสียชีวิตได้นำไปที่ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ เพื่อรอให้ญาติมารับ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะมีการเชิญมาสอบปากคำอีกครั้งว่า อุบัติเหตุดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นอย่างไร เพื่อนำมาประกอบกับพยานและกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง
