เชียงราย - กรมการปกครอง-“มูลนิธิรณสิทธิ์” บุกช่วยเหยื่อค้ามนุษย์พ้นนรกดงซ่องคาราโอเกะฉาวเชียงราย พบจับเด็กพม่าอายุต่ำกว่า 18 รับเเขกหนักตั้งแต่ 2 ทุ่มยันตีสอง หักค่าประตู 300-500 บาท แถมเจอบัญชีจ่ายส่วย 10 หน่วย เดือนละไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง, นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กว่า 50 นาย บุกช่วยเหลือหญิงสาวเหยื่อค้ามนุษย์ภายในร้านสาวพานคาราโอเกะ ถนนทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทางเชียงราย-พะเยา อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อ 21.00 น.เศษที่ผ่านมา (2 เม.ย.)
ที่เกิดเหตุเป็นตลาดเก่า เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีตึกแถวชั้นเดียวล้อมรอบ และมีร้านคาราโอเกะปลูกติดกัน 3 ร้าน ห่างออกไปอีกประมาณ 3 คูหามีการดัดแปลงเป็นห้องพัก 4 ห้อง
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในร้านสาวพานคาราโอเกะ ซึ่งเป็นร้านเป้าหมาย พบหญิงสาวชาวพม่า อายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ แต่จากการสอบถามทราบว่า น.ส. A (นามสมมติ) ไม่ทราบนามสกุล ชาวพม่า น.ส. B (นามสมมติ) ไม่ทราบนามสกุล ชาวพม่า เบื้องต้นทั้งสองรายแจ้งว่าอายุเพียง 17 ปี และ น.ส. C (นามสมมติ) ไม่ทราบนามสกุล อายุ 39 ปี เป็นหญิงบริการของร้าน ทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟ และค้าประเวณีให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยทั้งหมดต้องทำงานตั้งเเต่ 2 ทุ่ม จนถึงตี 2 หรือจนกว่าเเขกที่มาใช้บริการจะหมด ซึ่งทางร้านคิดค่าบริการแบบชั่วคราว 1,100 บาท หักให้แม่เล้า 300 บาท เเละค่าโรงแรม 100 บาท แต่ส่วนต่าง 700 บาทจะไม่ได้รับเงินทันที แม่เล้าหรือเจ้าของร้านจะเก็บไว้ หากเป็นการซื้อบริการเเบบค้างคืนจะคิดในราคา 2,500 บาท หักค่าแม่เล้า 500 บาท ไม่สามารถเบิกเงินมาใช้ได้เช่นกัน จึงต้องจำอยู่ในสภาพที่ต้องอดทนขายบริการทางเพศ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินที่ทำงานไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังพบถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งน้ำยาหล่อลื่น และสมุดขึ้นรอบของพนักงาน และยังพบสมุดที่เจ้าของร้านอ้างว่าเป็นบัญชีรายจ่ายที่จ่ายให้เจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 10 หน่วย เดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งจะได้ส่งให้ ป.ป.ช. ป.ป.ท.ทำการตรวจสอบต่อไป
นายรณสิทธิ์กล่าวว่า มีพลเมืองดีร้องเรียน และเเจ้งเบาะเเสผ่านเฟซบุ๊ก "เพจล่า" ว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวมีการลักลอบค้าประเวณีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เเละเป็นสถานบริการที่ส่งเสียงดังรำคาญ จากนั้นสายลับของมูลนิธิรณสิทธิ์จึงลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงนานประมาณ 1 เดือน พบในบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งมั่วสุมค้าประเวณี มีร้านคาราโอเกะทั้งหมด 3 ร้าน และได้ข้อมูลการสืบสวนชัดเจน จึงยื่นจดหมายร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย จากนั้นลงพื้นที่สืบสวนซ้ำพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ปรากฏพบข้อมูลตรงกัน จึงปฏิบัติการบุกจับกุมร้านสาวพานคาราโอเกะ ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ในครั้งนี้
นายรณสิทธิ์กล่าวต่อว่า อยากให้สังคมเข้าใจว่าการค้ามนุษย์เป็นความผิดอีกฐานหนึ่งของการค้าประเวณี ซึ่งมีโทษหนัก โดยการค้ามนุษย์นั้น ถ้ามีการเเสวงหาประโยชน์ทางเพศ มีการค้าประเวณีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ถือเป็นการค้ามนุษย์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ในกรณีของ "ร้านสาวพานคาราโอเกะ" เหยื่อที่ได้คุ้มครอง นอกจากจะต้องขายบริการทางเพศเเล้ว ยังต้องมานั่งบริการลูกค้า ลูกค้าสามารถกอด จูบ สัมผัสตัว ทำให้เด็กอยู่ในสภาพของมนุษย์ที่เป็นวัตถุพาณิชย์
นอกจากนี้ ยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ ก็คืออิสรภาพของน้องๆ ถ้าเขาถูกยึดพาสปอร์ต หรือเอกสารสำคัญประจำตัว ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้าง เงินค่าแรงไม่สามารถเบิกมาใช้ได้ทันที ทำให้เขาไม่สามารถไปไหนได้ อย่างกรณีนี้ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย
ด้านนายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำนายสุทัศน์ เทศน์นาม อายุ 46 ปี ชาวเชียงราย ซึ่งเเสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน และ น.ส.เฮง ชาวพม่าที่เป็นภรรยา รวมทั้งหญิงสาวชาวพม่าที่ได้ช่วยเหลือมาอยู่ในความคุ้มครองทั้งหมด 3 คน มายังที่ว่าการอำเภอพาน ก่อนจะเเยกกลุ่มผู้ต้องหากับเหยื่อออกจากกัน พร้อมทั้งส่งหญิงสาวทั้งหมดตรวจร่างกาย เพื่อนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบ หากปรากฏว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็จะนำตัวนายสุทัศน์ส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ต่อไป
นายมานะกล่าวต่อว่า ในส่วนสมุดบัญชีที่เจ้าของร้านบันทึกว่ามีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐนั้น จะส่งเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตรวจสอบเพื่อเอาผิดทางวินัยด้วย
แต่เบื้องต้นชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานค้าประเวณี, มั่วสุมค้าประเวณีภายในร้าน