พิจิตร/สุพรรณบุรี - หมอน้ำมันกัญชาที่คนในแวดวงยกให้เป็นปราชญ์กัญชา ยันปีนี้เวียนแจกน้ำมันกัญชาฯ ให้ผู้ป่วยทั้งที่สุพรรณฯ-ลพบุรี-พิจิตรให้ได้ล้านแคปซูล หวังให้ชาวบ้านรู้สรรพคุณ-ปลุกกระแสแก้กฎหมายให้เข้าถึงได้ทั่วถึง สกัดนายทุนฮุบ
ความคืบหน้ากรณีคนใช้นามแฝงว่า “อำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา” ทดลองใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ อีกหลายโรค จากนั้นได้มอบให้สมาชิกในกลุ่ม ขอใช้สถานที่พร้อมให้เจ้าอาวาสวัดป่าวชิรโพธิญาณ ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร แจกน้ำมันกัญชาให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ พร้อมบอกให้ผู้รับอยู่ในศีลธรรม ปฏิบัติตามข้อห้ามเรื่องการกิน-อยู่ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงและใช้ธรรมะในการเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง
ปรากฏว่าหลังจากมีภาพการแจกน้ำมันกัญชาแคปซูลเผยแพร่ผ่านสื่อ ล่าสุดก็มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบุกเข้าไปในวัดวัดป่าวชิรโพธิญาณเพื่อให้คำแนะนำถึงข้อห้ามและข้อปฏิบัติทางกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทันที
ขณะที่ผู้ที่ใช้นามแฝงว่า “อำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา” ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่บ้านพักที่สุพรรณบุรี และสาธิตให้ดูถึงการบรรจุน้ำมันกัญชาแคปซูล ที่มีญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงจิตอาสามาช่วยกันทำ ทั้งยังถ่ายทอดเรื่องการใช้น้ำมันกัญชาเพื่อการรักษาโรคภัยให้แก่ผู้สนใจที่มาขอเข้ารับการอบรมไปแล้วหลายร้อยคน
“อำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา” กล่าวว่า ตนใช้เวลา 6 ปีศึกษาข้อมูลเรื่องกัญชาของต่างประเทศ จากนั้นก็ทดลองทำตามแบบภูมิปัญญาไทย จนได้รู้ว่าน้ำมันกัญชารักษาโรคภัยได้มากกว่าที่ต่างชาติรู้เสียอีก โดยเริ่มกิน เริ่มใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคภัยกับตัวเอง และเพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่เป็นคนใกล้ตัว จากนั้นก็ขยายวงไปยังชาวบ้านที่รู้เรื่องราวการนำน้ำมันกัญชาแคปซูลไปกินรักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน ภูมิแพ้ ไมเกรน เอดส์ พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ฯลฯ
และได้เริ่มแจกน้ำมันกัญชาแคปซูลให้แก่ชาวบ้านทั่วๆ ไปมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งตอนนั้นไม่ได้จดบันทึกละเอียดมากเท่าที่ควร แต่คาดว่าน่าจะแจกไปแล้วกว่า 5 แสนแคปซูล อย่างไรก็ตาม ปีนี้ได้ตั้งเป้าที่จะแจก 1 ล้านแคปซูล โดยมีการจดบันทึกและแบ่งกลุ่มผู้ป่วยจากโรคต่างๆ ด้วย เบื้องต้นก็พบว่ามีผู้ป่วยโรคไตได้กินสมุนไพรน้ำมันกัญชาแล้วอาการดีขึ้น
เมื่อถามว่าการผลิตน้ำมันกัญชาแจกแบบนี้ผิดกฎหมายใช่หรือไม่..อำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา บอกว่าตนเคารพกฎหมาย รู้ว่าทำผิดแต่รอกฎหมายไม่ไหว แต่เนื่องจากกฎหมายไม่เอื้อ ไม่รู้ว่ากฎหมายจะเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่ากฎหมายจะเปลี่ยนแปลงได้เมื่อประชาชนเรียกร้อง ไม่ใช่ว่าอยู่เฉยๆกฎหมายจะเปลี่ยนได้เอง
“การที่จะให้ประชาชนออกมาเรียกร้องแก้กฎหมาย ให้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรเพื่อใช้ทางการแพทย์พื้นบ้านในการรักษาผู้เจ็บไข้ได้ป่วย สิ่งที่สำคัญคือต้องให้ประชาชน หรือผู้ป่วยได้รู้ลึก รู้จริง ได้สัมผัส ได้กิน ได้ลองใช้สมุนไพรที่ปรุงจากกัญชา เมื่อประชาชนเห็นประโยชน์ก็จะต้องออกมาร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลแก้กฎหมายให้ตรงความต้องการของประชาชนกลุ่มใหญ่ ไม่ใช่ให้กลุ่มการเมือง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเสนอร่างกฎหมาย หรือแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของพวกตนเองเท่านั้น”
อำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา ยังบอกอีกว่า ชีวิตคนที่เจ็บป่วยมีทุกวัน ตายทุกวัน มันรอกฎหมายไม่ได้ ดังนั้นที่ทำวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อการค้า พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ชาวบ้านทำเอง-ใช้เองในอนาคต จึงอยากฝากว่าในประเทศที่พัฒนาเขาเปลี่ยนแล้ว แต่ประเทศไทยของเรารออะไรอยู่จึงไม่เปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อให้กัญชาใช้ในทางการแพทย์ได้ทั่วถึงเสียที
สำหรับการแจกน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคภัยของกลุ่มอำนาจ มงคลเสริม หรือ อ.เดชา ขณะนี้นอกจากจะมีแจกที่วัดป่าวชิรโพธิญาณ ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ทุกวันอาทิตย์แล้ว ยังมีการแจกที่วัดบางปลาหมอ อ.เมืองสุพรรณบุรี ทุกวันอังคาร, วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ส่วนวันศุกร์ ก็มีการแจกที่วัดสระตาแวว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งในแต่ละแห่งมีประชาชนผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ มาขอรับน้ำมันกัญชาเพื่อนำไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บกันเป็นจำนวนมาก