ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สุดประทับใจ! สาวผู้ช่วยนักวิจัย มช.โพสต์ภาพจิตอาสาควักทุนส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัย N95 หมื่นชิ้นเดินแจกฟรีกลางสี่แยกรินคำ เชียงใหม่ ให้คนนำไปสวมใส่ป้องกันท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Warisa Jankham” โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่พบเห็นบริเวณสี่แยกรินคำ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ช่วงเช้าวันนี้ที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังแจกหน้ากากอนามัย N95 ฟรีแก่ผู้ขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง เพื่อนำไปใช้สวมใส่ป้องกันตัวเองในช่วงนี้ที่เชียงใหม่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยบรรยายข้อความและแสดงความชื่นชมการกระทำดังกล่าว
โพสต์ดังกล่าวมีผู้แชร์ต่อและเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แสดงความชื่นชม พร้อมทั้งให้กำลังใจคนเชียงใหม่ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้ และเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหาจนคลี่คลายโดยเร็ว
ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Warisa Jankham” คือ นางสาววริศา จันทร์ขำ อายุ 29 ปี ผู้ช่วยวิจัย คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ขับรถจากบ้านกำลังไปทำงาน ระหว่างทางจอดรถติดไฟแดงบริเวณสี่แยกรินคำ โดยที่สภาพรอบตัวเต็มไปด้วยหมอกควันที่ปกคลุมทึบเหมือนที่เป็นมาเกือบตลอดเดือนที่ผ่านมา ขณะนั้นสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งได้ออกมาเดินแจกจ่ายหน้ากากอนามัย N95 ที่ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ฟรีแก่ผู้ขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง พร้อมแนะนำวิธีใช้ที่ถูกต้องและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความอันตรายของฝุ่น PM 2.5 ด้วย
จากการสอบถามทราบว่าหน้ากากที่นำมาแจกฟรีใช้ทุนส่วนตัวจัดซื้อมาประมาณ 1 หมื่นชิ้น เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นภาพที่เห็นแล้วรู้สึกประทับใจและชื่นชม จึงถ่ายภาพและนำไปโพสต์เผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยอมรับว่าหวังให้เป็นการจุดประกายให้ผู้คนเห็นความสำคัญของปัญหานี้และช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหานี้ที่เป็นปัญหาของทุกคน อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าจะมีการแชร์ต่อไปเป็นวงกว้างและมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจนกลายเป็นกระแสเช่นนี้
สำหรับสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้นั้น นางสาววริศาบอกว่า ส่วนตัวรู้สึกว่าสถานการณ์ปัญหานี้ในปีนี้รุนแรงกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนทั้งสภาพหมอกควันที่ปกคลุมหนาทึบ และกลิ่นควัน ซึ่งทำให้แสบตาและหายใจติดขัด
ในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ปัญหานี้นั้น อยากเสนอแนะว่าหากเป็นไปได้อยากให้ลงพื้นที่ไปให้ตรงจุดและเห็นสภาพปัญหาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สนับสนุนให้มีการผลักดันให้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะมีผลกระทบหลายด้าน โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
