เพชรบูรณ์ - บริษัทอีโค่ฯ ประกาศยกเลิกหลุมเจาะน้ำมัน STN-2 ย้ำเข้าใจความรู้สึกรักหวงแหนโบราณสถานที่จ่อเป็นมรดกโลก
วันนี้ (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดฯ ซึ่งมี นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เป็นประธานฯ ได้มีการชี้แจงถึงโครงการผลิตปิโตรเลียมฐานผลิต STN-2 ใกล้กลุ่มโบราณสถานเขาคลังนอก เมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ หลังจากมีผลสรุปการรับฟังความคิดเห็นที่ชี้ว่า 62.6% ชาวเพชรบูรณ์เห็นชอบกับโครงการนี้
โดยมีตัวแทนบริษัทวิชั่นอีคอนซัลแทนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ), ตัวแทนบริษัทอีโค่โอเรียนท์รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และตัวแทนกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงานฯ เข้าชี้แจง
นายนาวิน พรรณธรรม ตัวแทนบริษัทอีโค่ฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทฯ ให้เข้าร่วมประชุม ซึ่งตลอดช่วง 1 เดือนที่ชะลอโครงการฯ บริษัทฯ ได้ปรึกษาหารือกับกรมเชื้อเพลิงฯ ถึงทางออกว่าหากโครงการนี้ไม่เกิดบริษัทฯ จะเดินไปทางไหนได้ เป็นสิ่งที่บริษัทกำลังศึกษาอยู่ ไม่ใช่จะดื้อดึงทำให้ได้ตรงนี้ แต่ดูเหมือนว่าการศึกษาจะต้องใช้เวลานาน ก็เข้าใจความรู้สึกของทุกคนในการรักหวงแหนโบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งกำลังเสนอเป็นมรดกโลก ดังนั้น วันนี้ตนก็ได้รับอนุญาตจากผู้บริหารบริษัทฯ ให้แจ้งในเวทีนี้ว่า บริษัทฯ ขอยกเลิก ไม่ทำการขุดเจาะปิโตรเลียมในบริเวณนี้ หรือหลุมขุดเจาะ STN-2 เพื่อความสบายใจของทุกคน
นายนาวินกล่าวอีกว่า หลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังวันแรก ทางบริษัทฯ ตระหนักถึงข้อห่วงกังวลได้ประกาศชะลอโครงการโดยทันทีหลังจากนั้นเพียง 3 วันโดยไม่ต้องรอผลการสรุปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งบ่งบอกถึงความจริงใจ เมื่อขั้นตอนการหาข้อมูลและขอบเขตของอุทยานฯ ตรงนี้อาจจะใช้เวลานาน บริษัทฯ จึงให้ประกาศไว้บนเวทีแห่งนี้เลย เพราะไม่อยากให้มีข้อกฎหมายตามมา ขอให้จบตรงนี้เลยดีกว่า ทุกฝ่ายจะได้ทำงานโดยไม่ค้างคาใจและไม่ต้องมาโต้เถียงในข้อกฎหมายอีกต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนการประกาศยกเลิกหลุมเจาะ STN-2 ด้าน น.ส.จันทรา เกิดมี ตัวแทนบริษัทวิชั่นอีคอนซัลแทนท์ฯ ได้ชี้แจงถึงกระบวนการรับฟังความความคิดเห็นและที่มาของผลสรุปความคิดเห็น 62.6% ชาวเพชรบูรณ์เห็นชอบต่อโครงการนี้ โดยมีนายสุพล พูลพิพัฒน์ และนายสมศักดิ์ คงวิเศษ ตัวแทนองค์การโลกสีเขียวเพชรบูรณ์และเครือข่าย โต้แย้งถึงการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเข้ารับฟังมีการโมเม พร้อมประกาศจุดยืนคัดค้านและพร้อมจะยกระดับการต่อต้านขึ้นไปอีก โดยย้ำว่าอย่าเหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
ด้านนางวรรณฑกา ธิติภาทร และนายปรศักดิ์ งามสมภาค ตัวแทนกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ขอให้เวทีการประชุมดังกล่าวมีมติเห็นด้วย หรือให้ยกเลิกฐานผลิตน้ำมัน STN-2 เพื่อทางกระทรวงฯ และบริษัทจะไปดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นว่าให้ยกเลิกหรือไม่เลิก
นายปรศักดิ์ยังชี้แจงถึงปมสงสัยเรื่องทั้งที่รู้ว่าอยู่ใกล้โบราณสถานทำไมกระทรวงพลังงานยังให้สัมปทาน โดยระบุว่า “เป็นการหาโอกาสที่จะรู้ว่าบริเวณนี้มีแหล่งน้ำมันหรือไม่ และเมื่อให้เนื้อที่ไปแล้วทางบริษัทก็ต้องพยายามหาให้เจอ แต่การหาให้เจอไม่ใช่จะดำเนินให้ขุดได้โดยอัตโนมัติ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายปิโตรเลียม และกฎหมายสิ่งแวดล้อม ต้องทำอีไอเอ ถ้าไม่ได้อนุมัติก็ต้องหยุดโครงการไป ซึ่งหลายโครงการอีไอเอก็ไม่ผ่าน”