สระแก้ว - ศาลจังหวัดสระแก้ว อ่านคำพิพากษายกฟ้อง 2 นักการเมืองท้องถิ่นสระแก้ว และอีกหนึ่งผู้ต้องหาในคดีฆ่าโหดเจ้าแม่ตลาดโรงเกลือและสามี ส่วนมือฆ่าสั่งจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอีก 2ราย โทษจำคุก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 28 มี.ค.) ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสระแก้ว ได้อ่านคำพิพากษาคดีอาญาที่ 19/2561 ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ในคดีฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม นางสายันต์ จันทา อายุ 64 ปี และนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง อายุ 71 ปี สองสามีภรรยาเศรษฐีและเจ้าแม่ตลาดโรงเกลือ ในบ้านพัก ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้จับกุมและมีคำสั่งฟ้องจำเลย 6 คน ประกอบลด้วย จำเลยที่ 1 นายวิชัย พุ่มเรือง พนักงานเทศบาลตำบลคลองหาด ,จำเลยที่ 2 นายนพรุจ รุประมาณ ผู้นำพารับ-ส่งทีมฆ่า
จำเลยที่ 3 นายวิชิต อินทร์แก้ว ทำหน้าที่จัดหาคนและร่วมลงมือในวันเกิดเหตุ ,จำเลยที่ 4 ร.อ.สุเทพ มากสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาด, จำเลยที่ 5 ร.อ.ทองทศ หรือ ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภา อบจ.สระแก้ว และ จำเลยที่ 6 นางมณีรัตน์ โกทัณย์ ที่หลบหนีไปประเทศลาว
โดยผู้พิพากาษาศาลจังหวัดสระแก้ว ได้อ่านคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จำคุก 6 เดือน ในคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน , จำเลยที่ 2 ศาลพิพากษายกฟ้อง ,จำเลยที่ 3 พยานหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมสองสามีภรรยาชัดเจน จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิพากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ญาติผู้ตายจำนวน 2,050,000 บาท ,จำเลยที่ 4 และ 5 พิพากษายกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 6 มีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและทะเบียนการครอบครอง พิพากษาให้จำคุก 4 เดือน ไม่รอลงอาญา
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ศาลอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นเสร็จสิ้น ญาติของ ร.อ.สุเทพ มากสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาดและ ร.อ.ทองทศ หรือ ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภา อบจ.สระแก้ว จำเลยที่ 4 และ 5 ได้มอบดอกไม้แสดงความดีใจกับนักการเมืองทั้งสองราย
ร.อ.สุเทพ มากสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาด ได้กล่าวขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรมกับพวกตน โดยเฉพาะตนเองที่ต่อสู้มาตลอด ตั้งแต่กรณีของ นายวิชัย พุ่มเรือง ซึ่งถูกตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2561 ในกรณีฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและมีตนเองเป็นผู้สั่งการ
"
เรื่องพวกนี้พิสูจน์ให้ทราบมาโดยตลอดโดยเฉพาะคนท้องที่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยวกับ นายวิชัยและนายกฯ ทั้งสิ้น แต่ก็พยายามจะโยงสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เรามีความผิดให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเครียดกับคดีนี้เพราะรู้ว่าไม่ได้ทำอะไร จึงอยากสื่อไปถึงผู้เสียหายว่าตนเองยังคิดเป็นพี่ชายตลอดเวลา และคิดว่าผู้เสียชีวิตเป็นน้องที่ดีมาโดยตลอด "ร.อ.สุเทพ กล่าว
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย ได้กล่าวขอบคุณศาลที่เปิดโอกาสให้นำพยานหลักฐานเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจนเสร็จสิ้น ซึ่งหลังจากนี้ไปเชื่อว่าทางฝ่ายโจทก์(อัยการจังหวัด)และโจทก์ร่วม จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อ ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในกระบวนการที่จะขึ้นสู่ศาลสูง แต่อย่างไรก็ดีตนเองก็จะพยายามนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ต่อไป