xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจสุดคับแค้น! สาวเมืองช้างโพสต์โวยหมอวินิจฉัยโรคหลานผิด 2 รอบ ไส้ติ่งแตกหวิดสิ้นชื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุรินทร์ - สุดคับแค้นใจ! สาวเมืองช้างโพสต์โวยหมอวินิจฉัยโรคของหลานสาวผิดถึง 2 รอบ ทั้งที่ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบแตกเป็นหนองอาการหนักแต่บอกแค่ปวดท้องบิด อาการไม่ดีขึ้นญาติต้องพาไปอีก รพ.จึงรู้เป็นไส้ติ่งอักเสบ ต้องส่งผ่าตัดด่วนที่ รพ.สุรินทร์ หลานหวิดสิ้นชื่อ

วันนี้ (26 มี.ค.) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ด'ดา สายบ๊อง” ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ เรื่องแพทย์สันนิษฐานโรคผิดจนทำให้หลานสาวเกือบเสียชีวิตซึ่งได้รับความสนใจจากชาวโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก นั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยด้วยจนทราบว่าผู้ที่โพสต์คือ นางสาวจิตรฤทัย จินพละ หรือน้องดา อายุ 25 ปี ซึ่งได้โพสต์ข้อความในลักษณะคับแค้นใจและสงสารหลานที่ป่วยจากอาการไส้ติ่งอักเสบและแตกเป็นหนองในเวลาต่อมา ซึ่งได้นำตัวหลานไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งแรกถึง 2 รอบ หมอบอกว่าเป็นอาการปวดท้องบิดไม่ต้องกังวลก่อนให้ยาแล้วให้กลับบ้าน แต่ผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้นญาติจึงตัดสินใจส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลอีกอำเภอหนึ่ง จึงทราบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบอาการหนักกระทั่งถูกส่งตัวเข้าทำการผ่าตัดรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ถึง 2 ครั้งเพราะอักเสบและแตกเป็นหนองจำนวนมาก เกือบเอาชีวิตไม่รอด
นางสาวจิตรฤทัย จินพละ หรือ น้องดา อายุ 25 ปี  เจ้าของโพสต์

ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า “อยากให้อ่านให้จบ โรงพยาบาลเเห่งหนึ่งที่บ้านเกิด พวกมึงบอกว่าหลานกูแค่ปวดท้องบิด..ไม่ต้องกังวล..มึงให้ยาแก้ปวด ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้องเกร็ง..แล้วมึงก็ให้กลับ..ผ่านไป 1 วัน...หลานกูปวดมากกูไปหาพวกมึงรอบ 2 แล้วบอกว่าปวดท้องมาก..ถ่ายไม่ออก..มึงก็บอกว่าตอนนี้ญาติกังวลเรื่องถ่ายไม่ออกใช่ไหม..ไม่ต้องกังวล..แค่ปวดท้องบิด..แล้วมึงก็ให้ยาแบบเดิมมา..แล้วแม่กูเลยขอยาระบายหน่อยได้ไหม..ถ้าไม่ขอมึงก็ไม่ให้..แล้วมึงก็ให้กลับ..บอกว่าถ้าไม่ดีขึ้นให้กลับไปเจาะเลือด...เข้าวันที่ 3..กูตัดสินใจพาหลานกูข้ามเขตการรักษามาที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งที่อำเภอใกล้เคียง (รพ.ที่ 2)..มาถึง รพ.ที่ 2 หมอกดดูท้องและถามอาการหมอก็สั่งเจาะเลือดตรวจเยี่ยวทันที..หมอสันนิษฐานว่าอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบ..พอผลตรวจออกมา..หมอก็สั่งส่งตัวมาที่ในตัวจังหวัดทันที (รพ.ที่ 3)..เพราะว่ามีโอกาสเป็นไส้ติ่งสูง...พอมาถึง รพ.ที่ 3 หมอก็เจาะเลือดตรวจเยี่ยวอีกครั้ง..ผลออกมาคือ ไส้ติ่งแตก...ต้องผ่าตัด...หลานกูเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่ 2 ทุ่ม..ออกมาตอน 5 ทุ่มกว่า..พอเช้านี้ 25/03/62 มาหมอใหญ่มาตรวจแล้วบอกว่าหลานกูไส้ติ่งแตกแล้วติดเชื้อ..และมีหนองแล้วมีเยอะมาก..อาจต้องผ่าตัดอีกรอบ..และครั้งนี้เป็นการผ่าตัดแผลใหญ่...ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด.และนี่คือหลานกูหลังผ่าตัด..ผ่าตัดสิ่งที่พวกมึงบอกว่า..แค่ปวดท้องบิด #แผลผ่าตัดใหญ่มาก”

นางสาวจิตรฤทัย จินพละ หรือน้องดา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการรักษาตัวคนไข้ของแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีณรงค์ เป็นน้องสาวของคนที่ป่วยถูกโพสต์อยู่ในขณะนี้ ช่วงนั้นพาเขาไปหาหมอเพราะมีอะไรเข้าไปในรูหู หมอตรวจบอกว่าขี้หนูเข้าหู แต่เมื่อรักษาจากแพทย์ที่อื่นบอกว่าแมลงปีกแข็งเข้าหู ช่วงนั้นโพสต์ไปก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ ส่วนเรื่องหลานสาว อายุ 11 ขวบ คนนี้ ที่ตนโพสต์ก็ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเยอะ หวังว่าลงเฟซฯ เพื่อบอกกล่าวญาติพี่น้องกันเองเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจจากสังคมมากมาย มีคนสอบถามและให้กำลังใจมาก

สำหรับหลานที่พามารักษานั้น เขาบ่นปวดท้องตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาก็คิดว่าเขาบ่นปวดท้องอาการของผู้หญิงทั่วไปอาจเป็นอาการปวดประจำเดือน ให้นอนดูอาการ แต่น้องเขาบอกว่าปวดมากปวดจนตัวงอ เลยให้น้องสะใภ้พาไปที่โรงพยาบาลนี้ซึ่งตนเองเคยมีปัญหากับโรงพยาบาลนี้เพราะเขาเคยวินิจฉัยอาการของหลานไม่ดีเลย เลยไม่พาเขาไปให้หลานสะใภ้พาเขาไปหาหมอที่โรงพยาบาลนี้ (รพ.ศรีณรงค์) อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ หลานสะใภ้พาไปส่งที่โรงพยาบาล กลับมาบ้านบอกว่าน้องป่วยเป็นลำไส้บิด และอาจเกี่ยวกับอาหารเป็นพิษเพราะมีอาเจียนด้วย ให้น้องกลับบ้าน ให้ยาแก้ปวด แก้ปวดท้องเกร็ง และยาแก้อาเจียน

กลับมาบ้านอาการก็ไม่ดีขึ้น ช่วงเช้าวันเสาร์น้องท้องอืด แม่พาไปคลินิกใกล้บ้าน หมอดูอาการแล้วสงสัยจะเป็นไข้เลือดออก แม่ก็พาไปโรงพยาบาลอีกบอกหมอว่าปวดท้องมากเดินตัวงอเป็นกุ้งเลย บอกหมอว่าปวดท้องมาก และถ่ายไม่ออก หมอบอกว่าอย่ากังวล และให้กลับบ้าน และจ่ายยามาให้อีกเป็นยาระบาย

เช้าวันเสาร์ พอกลับมาบ้านก็กินอะไรไม่ได้ยังมีอาการปวดท้อง เช้าวันอาทิตย์น้องถ่ายไปประมาณ 3 ครั้ง แต่เมื่อดูอาการน้องแล้ว อาการหนักแล้ว จึงตัดสินใจพาน้องข้ามเขตไปรักษาที่โรงพยาบาลหนึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ 2 (รพ.สังขะ) หมอที่ รพ.สังขะให้น้องเจาะตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เมื่อตรวจเสร็จหมอบอกว่าน่าจะเป็นอาการไส้ติ่งอักเสบ

จึงได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ หมอตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะอีกครั้ง ผลออกมาเป็นไส้ติ่งแตก ต้องผ่าตัดคืนวันอาทิตย์ หมอบอกว่าไส้ติ่งแตก มีหนองเยอะมาก วันนี้ (26 มี.ค.) อาการน้องดีขึ้นนิดหน่อย พูดคุยได้ แต่ว่ายังปวดแผลที่ผ่าตัด งดน้ำงดอาหาร ถือว่าโชคดีมากที่มาโรงพยาบาลสุรินทร์ ถ้าอยู่ที่เดิมคงจะได้แต่ยาแก้ปวดมา ยอมข้ามเขตมาทำการรักษา เสียเงินก็ช่างมัน ไม่เช่นนั้นต้องเสียน้องไป

ที่ตนโพสต์ข้อความไปเพราะเสียใจที่การรักษาครั้งแรกที่หมอบอกว่าแค่ปวดท้องบิด แต่ต้องการให้ญาติพี่น้องตนเองทราบว่าน้องป่วย มีอาการเป็นอย่างไร และอยากให้มีการพิจารณาโรงพยาบาลนี้ว่าการรักษาคนไข้เป็นอย่างไร เฉพาะครอบครัวญาติพี่น้องตนหมอวินิจฉัยโรคผิดถึง 2 คน คนแรกอายุ 2 ขวบ และคนนี้เป็นคนโตก็วินิจฉัยผิดอีก ดังนั้นสำหรับโรงพยาบาลแห่งแรกนี้อยากให้หมอรักษาคนไข้ สนใจคนไข้และตรวจอาการให้ดีกว่านี้




กำลังโหลดความคิดเห็น