จับแล้วมือยิงนักร้องสาวและเพื่อนสาวประเภทสองในร้านส้มตำ

พระนครศรีอยุธยา - จับแล้วมือยิงนักร้องสาวและเพื่อนสาวประเภทสองในร้านส้มตำ เผยแค้นที่นักร้องสาวไปแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติดต่ิเจ้าหน้าที่ ทำให้ถูกเข้าตรวจค้น

จากกรณีนักร้องสาว และเพื่อนสาวประเภทสอง ถูกยิงที่ร้านส้มตำ เมื่อเย็นวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ริมถนนสายเส้น 347 หมู่ 5 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเพื่อนสาวประเภทสองเสียแล้วที่ รพ. ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งออกติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน คือ นายกานต์ หรือเอส มีวงษ์สม และนายชุมพล นาคนาคา อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถจับกุมตัวได้ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลวัดตูม พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 26 มีนาคม 2562 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายกานต์ หรือเอส มีวงษ์สม อายุ 30 ปี มือปืน และนายชุมพล หรือโอ๋ นาคนาคา อายุ 34 ปี ชาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรก บริเวณร้านขายไผ่สาน ซึ่งห่างจากจุดลงมือยิงประมาณ 100 เมตร เป็นจุดที่นายกานต์ และนายชุมพล ขับรถจักรยานยนต์มาจอด

และสังเกตเห็นว่าผู้บาดเจ็บและผู้ตายนั่งอยู่ที่ร้านส้มตำ ห่างกันประมาณ 100 เมตร และเดินมายังจุดที่ 2 นายเอส ได้หยิบปืนจากนายโอ๋ และเดินไปยังจุดที่ 3 ซึ่งห่างจากร้านส้มตำประมาณ 10 เมตร จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาจุดที่ผู้บาดเจ็บ และผู้ตายนั่ง จำนวน 4 นัด ถูกนายอัมรินทร์ 2 นัด และนางเพ็ชลัดดา 2 นัด จากนั้นเดินมายิงนางเพ็ชลัดดา ซ้ำอีก 1 นัด แต่ปืนเกิดขัดลำกล้อง จึงรีบวิ่งกลับไปเอารถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลวัดตูม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลบซ่อนตัว จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนสังหาร

พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ พร้อมเผยชนวนการก่อเหตุ สืบเนื่องมาจากผู้ต้องหา และนางเพ็ชลัดดา อยู่ในกลุ่มเดียวกัน จนกระทั่งมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันทำให้ นางเพ็ชลัดดา ไปแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด จนถูกตำรวจตรวจค้นที่ร้านทำไผ่สาน จึงรู้สึกโกรธแค้น

จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุ ทั้งคู่ขับรถจักรยานยนต์มาที่ร้านสานไผ่ขาย และสังเกต เห็นว่า นางเพ็ชลัดดา นั่งอยู่ที่ร้านส้มตำ จึงเดินมายิงนางเพ็ชลัดดา แต่จังหวะที่ยิงเข้ามา นายอัมรินทร์ นั่งบัง นางเพ็ชลัดดา อยู่ จึงทำให้ถูกยิงจนเสียชีวิต ส่วนนางเพ็ชลัดดา ปืนกระสุนปืนขัดลำกล้องจึงวิ่งหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้าน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป พร้อมคัดค้านการประกันตัว