เปิดที่มา 2 ว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่แพร่ หลังล้มขาใหญ่ “ขั้วแม่เลี้ยงติ๊ก-ขั้วบ้านทุ่งกวาว” เดินเข้าสภาฯ ฉลุย

แพร่ - เปิดที่มา 2 ว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่เมืองแพร่ หลังล้มขาใหญ่ทั้งขั้วแม่เลี้ยงติ๊ก-ขั้วบ้านทุ่งกวาวเดินเข้าสภาฯ ได้ฉลุย ยืนยันพร้อมทำงานร่วมประชาชนจากฐานราก-สร้างมิติใหม่ทางการเมือง

ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดแพร่อย่างไม่เป็นทางการ เขต 1 นายเอกการ ซื่อทรงธรรม พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 58,855 คะแนน ขณะที่อันดับ 2 นางธนันทร์จิตรา ศุภศิริ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นเต็งหนึ่งมาก่อน ได้เพียง 34,255 คะแนน, ด.ต.บุหลัน ราษฎร์คำพรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 13,254 คะแนน มาเป็นอันดับ 3 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 นายกฤติดนัย สันแก้ว พรรคอนาคตใหม่ ได้ 47,449 คะแนน มาเป็นอันดับ 1 นายวิตติ แสงสุพรรณ จากพลังประชารัฐ มาเป็นอันดับ 2 ได้ 26,175 คะแนน นายคณาธิป มุดเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 12,897 คะแนน ที่เป็นเต็งหนึ่ง มาเป็นอันดับ 3

ส่งผลให้ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง คือ นายเอกการ ซื่อทรงธรรม หรือ จูน และนายกฤติดนัย สันแก้ว ได้รับเลือกตั้งเป็นว่าที่ ส.ส.จังหวัดแพร่ ถือว่าเป็นการล้มคนสำคัญๆ ของจังหวัดแพร่เดินสู่ชัยชนะอย่างเหลือเชื่อและผิดคาดของคอการเมืองท่ามกลางแรงสนับสนุนแสดงความยินดีของประชาชนที่ได้คนรุ่นใหม่เป็น ส.ส.แพร่ จากเดิมที่จังหวัดแพร่มีเพียงขั้วการเมืองอยู่ 2 ขั้วใหญ่ คือ ขั้วแม่เลี้ยงติ๊ก-ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู พรรคประชาธิปัตย์ และขั้วบ้านทุ่งกวาว ของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่มี ส.ส.หลายคนอยู่ในบ้านเดียวกัน

ทั้งนี้ นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ว่าที่ ส.ส.แพร่ เขต 1 มีแนวคิด “พลังของพวกเรา สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้” เป็นบุตรชายของนายพิพัฒน์ ซื่อทรงธรรม ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ อยู่บ้านเลขที่ 150/5/6 ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จบการศึกษาระดับปริญญาโท ทำธุรกิจส่วนตัวบริหารบริษัทแพร่ซีเมนต์ จำกัด เป็นธุรกิจที่สืบทอดมาจากบิดาคือนายพิพัฒน์ ซื่อทรงธรรม

ขณะที่นายกฤติดนัย สันแก้ว หรือเลขาฯ ตั้ม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/1 หมู่ 2 ต.บ่อเหล็กลอง อ.ลอง จ.แพร่ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ทำงานการเมืองเป็นเลขานุการนายก อบต.บ่อเหล็กลอง ด้วยแนวคิด “ตั้งมั่น ตั้งใจ รับใช้ประชาชน” เป็นบุตรของนายไพโรจน์-นางจารุวรรณ สันแก้ว ครอบครัวเป็นเกษตรกรที่ส่งเสริมบุตรชายเสมอมา ให้ความสนใจการเมืองมาแต่เด็ก เข้าทำงานใน อบต.ท้องถิ่น เป็นเลขานุการนายก อบต. ภายหลังเข้าเป็นสมาชิกพรรคและผ่านการคิดเลือกจากสมาชิกให้เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครในเขต 2

ว่าที่ ส.ส.ใหม่ของจังหวัดแพร่ผ่านกระบวนการสรรหาด้วยเสียงสนับสนุน และการคัดเลือกขั้นต้นมาก่อน ซึ่งทั้งคู่ยืนยันจะอยู่กับประชาชนฐานราก สร้างมิติทางการเมืองใหม่ในจังหวัดแพร่

นายเอกการกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่เพียงส่งไปเป็น ส.ส.แล้วปล่อยให้เดินไปตามลำพัง แต่อนาคตใหม่ มีทีมทำงานภายใต้สำนักงานของพรรค และแนวทางเป็นไปตามนโยบาย ในนโยบายไม่ได้หมายถึงการบริหารราชการในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่อนาคตใหม่เน้นการทำงานฐานรากของประชาชน มีการส่งเสริมการผลิต ส่งเสริมการตลาด ยกระดับสินค้าในชุมชน สร้างวิสาหกิจชุมชนที่เป็นจริง สร้างแรงกระตุ้นจากภายในชุมชน เข้ามาส่งเสริมการทำงานของนักการเมือง

ด้านนายอำนวย พลหล้า หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ หลังทำงานหาเสียงในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำตามขั้นตอนประสานงานระหว่างฐานประชาชนกับพรรคการเมือง โดยมีศูนย์ประสานงานเป็นตัวกลาง จับมือกับกลุ่มประเด็นปัญหาในชุมชน เข้าไปให้การช่วยเหลือ สนับสนุน

“ศูนย์ประสานงานของพรรคอนาคตใหม่จังหวัดแพร่จะยังคงเปิดดำเนินการตลอดไป ไม่ปิดศูนย์ฯ หลังเลือกตั้ง จะมีคนทำงานและสร้างมิติใหม่ ประสานประชาชนให้เกิดการทำงานฐานราก สร้างพลังท้องถิ่นแก้ปัญหาและสร้างเศรษฐกิจจากฐานราก ไม่ว่าพรรคจะไปเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม นับว่าเสียงประชาชนทำให้พรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายอย่างแท้จริง”