พิษณุโลก - “อ๋อง-พรรคอนาคตใหม่” ล้มหมอวรงค์-แชมป์เก่าประชาธิปัตย์ ขณะที่ “นคร มาฉิม” ถูก 2 พรรคใหญ่สกัดหมดสิทธิ์เข้าสภาฯ ขณะผู้สมัคร พปชร.เข้าวิน 2 เขต-เพื่อไทย 2 เขต
วันนี้ (24 มี.ค.) หลังปิดหีบ-นับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก 5 เขตเลือกตั้ง ปรากฏว่าผลสรุปคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทยได้ 2 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐได้ 2 ที่นั่ง และพรรคอนาคตใหม่ได้ 1 ที่นั่ง
โดยเขต 1 พิษณุโลก เกิดปรากฏการณ์ช้างล้ม เมื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรืออ๋อง ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ เบอร์ 2 มีคะแนนนำโด่ง ล้มแชมป์คือ นพ.วงรค์ เดชกิจวิกรม จากพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 5 อดีต ส.ส.เก่า 3 สมัย ลงไปได้ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะคะแนนถูกแบ่งไปหลายพรรคทำให้ฐานเสียงแตก
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรืออ๋อง หนุ่มพิษณุโลก ศิษย์เก่าพิษณุโลกพิทยาคม จบสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Master of Theological studies, Trinity Theological college Singapore อายุ 38 ปี ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้ทั้งช่องทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก และยูทูป รวมถึงลงพื้นที่หาเสียงด้วยตนเองในโค้งสุดท้าย บอกว่าดีใจที่มีคะแนนนำ ความพยายามของเราได้รับการตอบรับจากประชาชน จากความพยายามทุ่มเทสารพัดอย่าง เช่น ทำงานแบบใหม่ที่ไม่มีหัวคะแนน ทำงานด้วยงบประมาณที่จำกัด ไม่มีผู้มีอิทธิพล (กว้างขวาง) มาช่วย เรียกได้ว่าลงทุนน้อยที่สุด
“คำว่า หัวคะแนน ของเราคือคนที่เห็นด้วยกับแนวคิดเราแล้วไปรณรงค์หาเสียงกันเอง ดังนั้นหัวคะแนนเราไม่จ้างด้วยเงิน ใช้วิธีหาเสียงทางเฟซฯ และไลน์เป็นหลัก ยึดหลักการพูดถึงนโยบายพรรค อาทิ นโยบายเกษตรกร ก็ไปคุยกับชาวบ้านเรื่องเกษตรก้าวหน้า แต่ไม่ได้สัญญาใดๆ ว่าจะพัฒนาหรือทำงานใดๆ”
อ๋อง ว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ของพิษณุโลก บอกว่า เริ่มแรกเข้าพรรคอนาคตใหม่ ก็คือได้รับการชักชวนทางเฟซบุ๊กโดยอินบ็อกซ์เข้าไปหาหัวหน้าพรรค-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากนั้นก็นัดคุยกันที่บริษัท ซึ่งยอมรับว่าติดตามธนาธรจากที่เป็นนักปีนเขาด้วยกัน
“ชนะการเมืองครั้งนี้ถือเป็นยกแรกที่ได้เป็นนักการเมือง หากเข้าไปในสภาฯ ก็คิดว่าจะต้องมีพี่เลี้ยง เชื่อว่า ทางพรรคอนาคตใหม่สามารถทำงานได้แน่นอน”
สำหรับผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก 5 เขตเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า
เขต 1 อ๋อง-พรรคอนาคตใหม่ ชนะหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ปชป.
เขต 2 นพพล เหลืองทองนรา พรรคเพื่อไทย ชนะ “จ่าเจี๊ยบ” พรรคพลังประชารัฐ
เขต 3 นายอนุชา น้อยวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ ชนะ นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรคประชาธิปัตย์
เขต 4 นายนิยม ช่างพินิจ พรรคเพื่อไทย ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย
เขต 5 นายมานัส อ่อนอ้าย พรรคพลังประชารัฐ เฉือนชนะ นายอธิศร จากพรรคประชาธิปัตย์ ส่วน “นคร มาฉิม-พรรคเพื่อไทย” แชมป์เก่า ที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายมาพรรคชาติพัฒนา และเพื่อไทยในสมัยนี้ ซึ่งมีแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มักมีปัญหากับ “สายสีเขียว” ถูกเพ่งเล็งเป็นประจำ สุดท้ายพ่ายการเลือกตั้งครั้งนี้จนได้