xs
xsm
sm
md
lg

ฟันธงโค้งสุดท้าย! สนามใหญ่โคราชชิง 14 ส.ส. “พปชร.-ชพน.-พท.-ภท.” แย่งเบียดเข้าวิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รายงานพิเศษ
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังในโค้งสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไปที่จะมาถึงในวันที่ 24 มี.ค. นี้ การแข่งขันหาเสียงจึงเข้มข้นขีดสุด สารพัดวิชามารถูกงัดออกมาใช้ โดยเฉพาะนครราชสีมาจังหวัดใหญ่สุดในประเทศ เมืองประตูสู่ภาคอีสาน มี ส.ส. ได้ถึง 14 คน จึงเป็นเป้าหมายถูกจับจ้องจากทุกพรรคการเมืองที่มุ่งหวังเข้ายึดครองที่นั่ง ส.ส.ให้ได้มากที่สุด

หากย้อนดูผลการเลือกตั้งล่าสุดปี 2554 พบว่า จ.นครราชสีมา มี 15 เขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย (พท.) คว้า ส.ส. ไปได้มากถึง 8 ที่นั่ง , พรรคชาติพัฒนา ( ชพน.) เจ้าถิ่นได้ 4 ที่นั่ง และ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 3 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้การแบ่งเขตเลือกตั้งแตกต่างจากเดิมและลดเหลือ 14 เขต อีกทั้งบรรดาอดีต ส.ส.และ ผู้สนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ ต่างแตกกระจายไปสังกัดค่ายต่างๆ โดยเฉพาะพรรคจัดตั้งใหม่ อย่าง พลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ชู “พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลสะเทือนในทุกสนาม ซึ่งเมื่อวิเคราะห์สถานการณ์ในโค้งสุดท้าย จะเห็นความชัดเจนแบบเขตต่อเขตดังนี้


เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา แชมป์เก่า พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ส่ง “นายธงชัย ลืออดุลย์” อดีต ผู้ว่าฯนครราชสีมา หมายเลข 6 ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักกรณีขอคืนพื้นที่ “มอปลาย่าง” ร้านอาหารรุกล้ำเขื่อนลำตะคอง แหล่งน้ำหล่อเลี้ยงเมืองโคราช ลงสู้ศึกมีคู่แข่งคนสำคัญ คือ “นายอดุลย์ อยู่ยืน” หมายเลข 8 อดีต ส.อบจ. เขตอ.เมืองนครราชสีมา ผู้สมัครฯ จาก พรรคภูมิใจไทย ที่เคยเป็นฐานคะแนนหลักของ ชพน. หันมาลงเล่นสนามระดับชาติเอง แต่ศึกครั้งนี้ “สุวัจน์” ทุ่มสุดตัวเพื่อรักษาเขต 1 เมืองหลวงโคราชไว้ให้ได้ โดยมี “สุรวุฒิ เชิดชัย” ลูกเจ๊เกียว นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและทีม ส.อบจ. กลุ่ม ชพน. ทุ่มช่วยเต็มกำลัง จึงฟันธงได้ว่า “นายธงชัย” น่าจะรักษา เก้าอี้ ส.ส.เขต 1 โคราช ของ ชพน. เอาไว้ได้

โดยมีตัวสอดแทรก อย่าง “นายเกษม ศุภรานนท์” ผู้สมัครฯ หมายเลข 17 พรรค พปชร. และ “ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา” หมายเลข 11 พรรค พท.

เขตเลือกตั้งที่ 2 พื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมาเขตรอบนอก ดูเหมือนจะเป็นสนามชิวๆ สำหรับ พรรคชาติพัฒนา เจ้าถิ่น ที่ยังคงส่งอดีต ส.ส. ขวัญใจประชาชนคนเดิมอย่าง “นายวัชรพล โตมรศักดิ์” ผู้สมัครฯ หมายเลข 18 ลงรักษาเก้าอี้ไว้ให้ได้ โดยมีคู่แข่ง คือ พรรคเพื่อไทย ที่ส่ง “นายสุธรรม พรสันเทียะ” หมายเลข 7 อดีต ส.อบจ. ผู้สมัครฯ คะแนนเสียงดี มาทาบรัศมี ฟันธงว่าในเขตนี้แชมป์เก่าอย่าง “วัชรพล โตมรศักดิ์” ไม่น่าพลาด สามารถคว้า เก้าอี้ ส.ส.ให้ ชพน. ได้อีก 1 ที่นั่ง แบบไม่ยากเย็นนัก


เขตเลือกตั้งที่ 3 อ.สูงเนิน ,ขามทะเลสอ และ อ.สีคิ้ว เป็นเขตศึกช้างชนช้างของแท้ ระหว่างอดีต 2 รัฐมนตรี “ประเสริฐชนประเสริฐ” โดย พรรคชาติพัฒนา ส่ง “นายประเสริฐ บุญชัยสุข” ผู้สมัครฯ หมายเลข 4 อดีต รมว.อุตสาหกรรมและ อดีต ส.ส.นครราชสีมา หลายสมัย มือทำงานของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ” ประธานที่ปรึกษา ค่าย ชพน. มีฐานเสียงหลักใน อ.ขามสะเลสอ กับ อ.สูงเนิน ลงสู้ศึก กับ “นายประเสริฐ จันทรรวงทอง” ผู้สมัครฯ หมายเลข 15 พรรคเพื่อไทย อดีต รมช.คมนาคม และอดีต ส.ส. ที่ผูกขาดฐานเสียงใน อ.สีคิ้ว พื้นที่ใหญ่ของเขตนี้มายาวนาน ศึกนี้ห้ามกระพริบตาเด็ดขาดเพราะคู่คี่สูสีกันมาก แต่ด้วยพลังภายในอันลึกล้ำ เป็นไปได้ว่า ชพน. อาจเพลี่ยงพล้ำสูญเสียเก้าอี้ ส.ส. เขตนี้ให้กับ พท. ไปแบบเฉียดฉิว

เขตเลือกตั้งที่ 4 พื้นที่ อ.โนนสูง ,โนนไทยและพิมาย บางส่วน เขตนี้ ส.ส.แชมป์เก่า คือ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ภรรยา นายวิรัช รัตนเศรษฐ นักการเมืองขาใหญ่ชื่อดังแห่งเมืองโคราช เลือกตั้งครั้งนี้ย้ายยกครัวไปสังกัด พรรคพลังประชารัฐ และส่ง “นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ” บุตรชายคนที่ 2 ลงสู้ศึกสนามนี้ ในนาม พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 9 โดยมีคู่แข่งที่น่ากลัว คือ “นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล” หมายเลข 10 อดีต ส.อบจ. เขต อ.โนน จากพรรคภูมิใจไทย อดีตมือทำงานการเมืองของ “นายวิรัช” เอง

เขตนี้เรียกได้ว่า “พ่อสั่งลุย” ได้เปรียบคู่แข่งเพราะเป็นฐานที่มั่นบ้านเกิดของตระกูล “รัตนเศรษฐ” แต่ยังมีตัวแปรสำคัญคือปรากฏการณ์ โครงการสนามฟุตซอลโรงเรียนฉาวพ่นพิษ เพราะไปทำให้ ผอ.โรงเรียน รับกรรมแทนถูกจับหลายคน งานนี้มีพลิกโผแน่ โปรดจับตา “รัตนเศรษฐ” พลาดท่าเสียเก้าอี้ ส.ส.ให้กับ “สมเกียรติ” แห่งค่ายภูมิใจไทย ไปอย่างเจ็บปวด


เขตเลือกตั้งที่ 5 อ.บัวใหญ่, แก้งสนามนาง , บัวลาย ,สีดา และบ้านเหลื่อม เป็นพื้นที่เดิม ของ “นายโกศล ปัทมะ” อดีต ส.ส. นครราชสีมา ผู้สมัครฯ หมายเลข 16 พรรคเพื่อไทย น้องชาย “นายนภดล ปัทมะ” มือกฎหมายของพรรคฯ นายโกศล นั้น มีความใกล้ชิดชาวบ้านในพื้นที่และฐานกลุ่มคนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น ประกอบกับเป็นมือทำงานของพรรคฯ โดยมีคู่แข่งสำคัญ คือ “นางอรทัย พลวิเศษ” ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 พรรคพลังประชารัฐ อดีต ผอ.โรงเรียนชื่อดัง ภริยา “นายภิรมย์ พลวิเศษ” เลขานุการ “กลุ่มสามมิตร” ฝังตัวกับชาวบ้านกลุ่มสตรี กลุ่มครูอาจารย์บุคลากรทางการศึกษามาตลอดชีวิต บวกกับมีกลไกรัฐคอยเกื้อหนุน แต่สถานการณ์โค้งสุดท้ายยังให้น้ำหนักไปทางด้าน “นายโกศล” ที่แข็งโป๊กทุกด้าน และกระแสพรรคในพื้นที่ยังได้รับความนิยม

เขตเลือกตั้งที่ 6 อ.ประทาย, โนนแดง, เมืองยาง, ลำทะเมนชัยและ อ.คง บางส่วน เป็นอีกสนามที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เพราะตัวผู้สมัครฯ ล้วนมีพี่เลี้ยงดีหนุนหลังและ รับการบ้านมาแบบแพ้ไม่ได้ โดยครั้งนี้ นายสุชาติ ภิญโญ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้ ส่งน้องชายสุดที่รัก คือ “นายสมชาย ภิญโญ” ผู้สมัครฯ หมายเลข 9 ลงสู้ศึกในนามพรรคเพื่อไทย แทน ซึ่ง “นายสมชาย” เข้าฝังตัวอยู่ในพื้นที่เป็นเงาตามตัวพี่ชายมานาน บวกกับบุคลิกอัธยาศัยดี อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน ออกพบปะดูแลประชาชนมาต่อเนือง แต่ศึกครานี้ไม่ง่าย เพราะคู่แข่ง คือ “นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ” ผู้สมัครฯ หมายเลข 11 พรรคพลังประชารัฐ อดีต ส.ส. อีกคน ที่ย้ายมากจากพรรคเพื่อไทย ได้รับการบ้านจาก “นายวิรัช รัตนเศรษฐ” ผู้เป็นพ่อ คือ ต้องชนะเท่านั้น เขตนี้สูสีกันมากจริง ๆ แต่ให้น้ำหนักไปที่ “นายอธิรัฐ ” พปชร. จะสามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ แบบเฉียดฉิวชนิดหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว


เขตเลือกตั้งที่ 7 พื้นที่ อ.ชุมพวง และ พิมาย บางส่วน เขตนี้แชมป์เก่า คือ “นายจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร” อดีต ส.ส. นครราชสีมา ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 พรรคเพื่อไทย ที่ทำการบ้านเดินลุยเข้าหาชาวบ้านทุกวัน โดยได้แรงหนุนจากพ่อค้ารายใหญ่เจ้าของตลาด ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวนาชาวไร่ แต่ งานนี้ต้องเหนื่อยหนัก เพราะคู่แข่ง คือ “นางทัศนียา รัตนเศรษฐ” ผู้สมัครฯ หมายเลข 15 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีต ส.ส. เช่นกันและเป็นภรรยาสุดที่รักของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ลงท้าชิงเก้าอี้แบบแพ้ไม่ได้ ศึกนี้ห้ามกระพริบตาเด็ดขาด และ เซียนการเมืองยังเทน้ำหนักไปที่ “ทัศนียา” พลังประชารัฐ มากกว่า “จรูญพงศ์” เพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย อ.ห้วยแถลง ,จักราช และ อ.เฉลิมพระเกียรติ พรรคพลังประชารัฐ ส่ง “นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ” ผู้สมัครฯ หมายเลข 16 อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลง ภรรยาเจ้าของปั๊ม ปตท. รายใหญ่ น้องสาว นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ภริยา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ลงชิงชัย กับ “นายพลพีร์ สุวรรณฉวี” อดีต ส.ส.แชมป์เก่า ผู้สมัครฯ หมายเลข 1 พรรคภูมิใจไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา และยังมีตัวสอดแทรกอย่าง “นายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก” จากพรรคเพื่อไทย ที่แรงตามมาติดๆ นับเป็นอีกเขตที่แข่งขันกันสูง ศึกนี้แม่ประกาศสู้หลังพิงฝา ระดมทัพ ส.อบจ.ช่วยลูกชายเต็มอัตราศึก ส่งผลบุญให้ “พลพีร์” ค่ายภูมิใจไทย น่าจะเข้าวินได้ในที่สุด


เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.โชคชัย และ อ. หนองบุญมาก แชมป์เก่าเขตนี้ คือ “นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์” อดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัย ผู้สมัครฯ หมายเลข 12 พรรคพลังประชารัฐ ที่ย้ายจากค่ายภูมิใจไทย โดยมีคู่แข่งคนสำคัญ คือ “นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ผู้สมัครฯ หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นมือทำงานสำคัญของพรรคเพื่อไทย แต่ ณ เวลานี้แชมป์เก่า อดีต ส.ส.หลายสมัยอย่าง “บุญจง” ยังได้เปรียบหลายช่วงตัว ด้วยฐานคะแนนเสียงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่และระบบการจัดตั้งอันเหนียวแน่น

เขตเลือกตั้งที่ 10 อ.ครบุรี, เสิงสาง และ อ.วังน้ำเขียวบางส่วน เขตนี้แชมป์เก่า คือ นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส. 1 สมัย พรรคเพื่อไทย น้องชาย “นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์” แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ “นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์” หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีต ส.ส. หลายสมัย และอดีตแกนนำคนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ กลับคำสาบานต่อหน้าย่าโมและย้ายจากค่ายเพื่อไทยมาลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ในนามพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 2 โดยมีคู่ชิงดำจากค่ายนายทุนใหญ่โรงงานแป้งมัน คือ “นายพรชัย อำนวยทรัพย์” อดีต ส.อบจ. เขต อ.ครบุรี ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคภูมิใจไทย ซึ่งฝังตัวอยู่ในพื้นที่มากว่า 10 ปี พกความมั่นใจมาเต็มที่ ประกาศจะเป็น ส.ส.มันสำปะหลัง ให้จงได้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถโค่นความเก๋าของ “แรมโบ้อีสาน” กรุยทางเข้าสู่สภาแจ้งเกิดได้แบบโชกเลือด


เขตเลือกตั้งที่ 11 พื้นที่ อ.ปักธงชัย และ อ.วังน้ำเขียว อดีต ส.ส.แชมป์เก่าคือ นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อ หลีกทางให้ “นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม” หรือ “ส.ส.เบี้ยว” ผู้สมัครฯหมายเลข 1 อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา ลงสมัครฯระบบเขต ในนาม พรรคพลังประชารัฐ จึงได้แรงหนุนช่วยจาก“นายประนอม โพธิ์คำ” อดีตคู่แข่งที่หันมาจับมือรวมพลังกันเป็น 2 แรงสู้ เปิดศึกกับ “นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล” ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 พรรคภูมิใจ ทายาทเจ้าของโรงแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ ซึ่งมี “นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” เศรษฐีเจ้าของโรงแป้งมัน ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 7 พรรคภูมิใจไทย ทุ่มช่วยแบบไม่อั้น แต่คงไม่สามารถโค่น อดีต ส.ส. หลายสมัย อย่าง “สมศักดิ์” พลังประชารัฐ ได้

เขตเลือกตั้งที่ 12 อ.ปากช่อง เขตนี้แชมป์เก่า คือ “นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ” อดีต ส.ส.นครราชสีมา ผู้สมัครฯ หมายเลข 5 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ฐานเสียงแน่นตัวจริงเสียงจริง ดูแลพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องบวกกับกระแสของพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น จึงมาเหนือคู่แข่งคนสำคัญ อย่าง “นายมิชา พงษ์สว่าง” อดีต นายก อบต.หนองสาหร่าย 5 สมัย ผู้สมัครฯ หมายเลข 1 พรรคภูมิใจไทย ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อชิงเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้ อันเป็นพื้นที่ตั้งบ้านอีกหลัง ของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาครองให้จงได้ แต่คงยังเป็นรองตัวเต็งหนึ่งอย่าง “นายศิรสิทธิ์” แห่งค่ายเพื่อไทย

ส่วน พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.หลายสมัยชื่อดัง อีกคน ครั้งนี้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อชาติ เป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อ อยู่ไกลถึงอันดับที่ 45


เขตเลือกตั้งที่ 13 พื้นที่ อ.ด่านขุนทด , เทพารักษ์ และ อ.สีคิ้ว บางส่วน เขตนี้ อดีต ส.ส. แชมป์เก่าคือ “นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์” อดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัย ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคภูมิใจไทย ซึ่ง “นายวิสิทธิ์” ยึดครองพื้นที่มานาน ขยันพบปะประชาชนฐานเสียงแน่น คาดว่าจะเอาชนะคู่แข่งมาแรง อย่าง “นายรัชตะ ด่านกุล” อดีต ส.อบจ.เขตด่านขุนทด ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 พรรคเพื่อไทย ได้แบบไม่ยากนัก

ปิดท้ายที่ เขตเลือกตั้งที่ 14 พื้นที่ อ.ขามสะแกแสง, พระทองคำ,คง และโนนไทยบางส่วน เขตนี้ แชมป์คือ “นายสุชาติ ภิญโญ” อดีต ส.ส. เสียงดีเต็งหนึ่ง ผู้สมัครฯ หมายเลข 11 พรรคเพื่อไทย ชิงชัยกับ “นายอุทัย มิ่งขวัญ หมายเลข 16 พรรคชาติพัฒนา ซึ่งเป็น อดีต ส.ส.นครราชสีมา มือทำงานขุนพลคู่กาย “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” มายาวนาน สถานการณ์โค้งสุดท้ายนี้ ยังเป็นรอง “สุชาติ” เพื่อไทย ที่มีโอกาสเดินเข้าสู่สภาสูง

สรุปแบบฟันธงได้ว่า ศึกเลือกตั้ง ส.ส. นครราชสีมา ทั้ง 14 เขต ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะคว้าที่นั่ง ส.ส. ไป 4 (บวก-ลบ 1) , พรรคพลังประชารัฐ 4 ( บวก-ลบ 1 ) , พรรคภูมิใจไทย 4 ( บวก-ลบ 1 ) และ พรรคชาติพัฒนา 2 ( บวก-ลบ 1 ) ...




กำลังโหลดความคิดเห็น