xs
xsm
sm
md
lg

คุก “เปรมชัย” 16 เดือนโดน 3 ข้อหา ยกฟ้องครอบครองซากเสือดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาญจนบุรี - ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุก “เปรมชัย” 16 เดือนใน 3 ข้อหา .ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ยกฟ้องข้อหาเก็บของป่าและร่วมกันมีซากเสือดำ หัวหน้าวิเชียร เผยพอใจในระดับหนึ่ง ส่วนจะอุทธรณ์หรือไม่อย่างไรขอหารือผู้ใหญ่ก่อน

จากกรณีที่ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาระดับมหาเศรษฐีด้านธุรกิจก่อสร้าง พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ.2561 ซึ่งในชั้นสอบสวนทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธ

โดยอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กับพวก ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากผ่านการสอบพยานโจทก์ จำเลย ไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2561 ทั้งฝ่ายโจทก์ จำเลยก็ได้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีนี้ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ศาลมีคำตัดสินให้จำคุกนายเปรมชัย เป็นเวลา 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน และข้อหาพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะจำคุก 6 เดือน ให้ชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท โดยยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เปิดคำพิพากษาศาล

ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.219/2561 ที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 รวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

กรณีเมื่อวันก่อน 3 ก.พ.2561 เจ้าหน้าป่าไม้เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน พร้อมซากเสือดำ และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกชำแหละไม่ไกลจากจุดที่นายเปรมชัย และพวกตั้งแคมป์อยู่ประมาณ 300 เมตร ในบริเวณลำห้วยปะชิ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ

โดยในวันนี้จำเลยทั้ง 4 มาฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว พิพากษาว่าจำเลยทั้งสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ. ศ. 2535 มาตรา 19 วรรคหนึ่ง 47, 55 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 1,2 และ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ. ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิวรรคหนึ่ง, 72 ทวิวรรคสองประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 2 และ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ. ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคสามประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ. ศ.2535 มาตรา 16, 36, 47, 53 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80 ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ. ศ. 2507 มาตรา 14, 31 วรรคหนึ่ง จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ. ศ. 2535 มาตรา 16, 36, 47, 53 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 การกระทำของจำเลยที่1,2 และ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองกับฐานล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นกรรมเดียวเป็นผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 1 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าคุ้มครองกับฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 8 เดือน

ฐานเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 1 ปี ฐานพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 4 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควรกับฐานร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1,2 และ 4 คนละ 5 เดือน

ฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับฐานร่วมกันรับไว้โดยประการใดซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกจำเลยที่1 มีกำหนด 2 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2- 4 คนละ 4 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 10,000 บาท ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำคุกจำเลยที่ 2 และ 4 คนละ 6 เดือน จำเลยที่ 2 และ 4 ให้การรับสารภาพข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78

ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต คงจำคุกจำเลยที่ 2 และ 4 มีกำหนดคนละ 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 16 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 13 เดือน จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 2 ปี 17 เดือน จำเลยที่ 3 ไม่ได้ร่วมล่าสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งโทษจำคุกที่จำเลยที่ 3 ได้รับเป็นโทษระยะสั้นไม่มีประโยชน์ในการแก้ไขฟื้นฟู ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเพื่อให้โอกาสจำเลยที่ 3 กลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 หากจำเลยที่ 3ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ริบอาวุธปืน กล้องเล็ง ซองบรรจุกระสุนปืน ปลอกกระสุนปืน ลูกกระสุน เบ็ดธง สวิง คันเบ็ดตกปลา กล่องพร้อมอุปกรณ์ตกปลา นกหวีด ไฟฉายสปอร์ตไลท์ มีดเหน็บ มีดโต้ มีดพับ มีดทำครัว ซากเสือดำและซากไก่ฟ้าหลังเทา ของกลาง ให้คืนเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำและรถยนต์แบบทั้งสองตอนท้ายบรรทุกยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 7 กค 2192 กทม.ให้คืนแก่เจ้าของ

ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อจากโทษคดีอื่นนั้นเนื่องจากคดีที่ขอให้นับโทษต่อศาลยังไม่มีคำพิพากษาจึงไม่อาจนับโทษต่อได้จึงให้ยกคำขอส่วนนี้กับให้จำเลยที่ 1 และ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ. 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง สำหรับคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก


กำลังโหลดความคิดเห็น