xs
xsm
sm
md
lg

“ครูบาบุญชุ่ม” สวดถอน-ผบ.หน่วยซีลนำทีมขอขมา “เจ้าแม่นางนอน-จ่าแซม” ก่อนลุยเก็บกู้อุปกรณ์ช่วย 13 หมูป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
เชียงราย - “พระครูบาบุญชุ่ม-เกจิดังลุ่มน้ำโขง” นำทำพิธีสวดถอน ก่อน ผบ.หน่วยซีลนำ จนท.กว่า 200 ชีวิตขอขมาเจ้าแม่นางนอน-สักการะดวงวิญญาณ “จ่าแซม” พร้อมเดินหน้าเก็บกู้อุปกรณ์ช่วยหมูป่าฯ ตกค้างถ้ำหลวง
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
วันนี้ (18 มี.ค.) พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร พระเกจิดังลุ่มน้ำโขง ได้เดินทางทำพิธีสวดถอนหน้าถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน(เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทรัพยากรกู้ภัยที่ตกค้างภายในถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ระยะแรก

โดยมีพลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล กองทัพเรือ, นายไพฑูรย์ นาคแท้ ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 จ.เชียงราย, นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ นำทีมเจ้าหน้าที่ในสังกัดพร้อมด้วยอาสาสมัครศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยพิบัติจังหวัดเชียงราย รวมกว่า 200 คน พร้อมด้วยนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ช รวมทั้งผู้ปกครอง ตลอดจนศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศลในภารกิจเก็บกู้ทรัพยากรกู้ภัยที่ตกค้างภายในถ้ำหลวง

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ หน่วยซีลจำนวน 110 นายจะปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทรัพยากรกู้ภัยอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนตลอด 3 วัน ซึ่งวันนี้ (18 มี.ค.) ทีมเก็บกู้ทรัพยากรหน่วยซีล ชุดที่ 1 จำนวน 48 นาย ได้วางระบบการสื่อสารติดตั้งระบบไฟส่องสว่างและเคลียร์เส้นทางก่อน จากนั้นได้สับเปลี่ยนกำลังพลชุดที่ 2 เข้าไปปฏิบัติภารกิจต่อ จำนวน 24 นาย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ จากการสำรวจอุปกรณ์กู้ภัยที่ตกค้างในถ้ำหลวงเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณโถงแรก โถงที่ 2 และโถงที่ 3 น้ำได้แห้งแล้ว แต่ในทางเดินจากโถงที่ 3 ผ่านสามแยกไปทางพัทยาบีช-เนินนมสาวที่อยู่ห่างไปอีกประมาณ 700 เมตรยังมีน้ำและทรายทับถมอยู่ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสำรวจอุปกรณ์ต่อไปได้

โดยพบว่าภายในถ้ำมีอุปกรณ์ตกค้างจำนวนมาก โดยเฉพาะโถงที่ 3 ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการขณะเกิดเหตุ และโถงที่ 2 ที่เป็นโถงใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ประกอบด้วย สายไฟฟ้า ท่ออากาศ วิทยุสื่อสาร ถังออกซิเจนกว่า 300 ถัง เครื่องสูบน้ำกระดาษฟอยล์ อาหารเพาเวอร์เจล เปลสนาม และเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางภายในถ้ำ

ด้านกองอำนวยการฯ และคณะทำงานบูรณาการปรับปรุงฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ได้ประเมินสถานการณ์ในที่ประชุมแล้วมีข้อสรุปว่า ช่วงเวลานี้ที่มีน้ำน้อยเหมาะสมต่อการระดมกำลังเพื่อจะเข้าไปปฏิบัติการขนย้ายอุปกรณ์ในการกู้ภัยของหน่วยซีลทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
สำหรับแผนการเก็บกู้ทรัพยากรกู้ภัยที่ตกค้างในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนในระยะแรกนั้นจะเป็นการเก็บกู้อุปกรณ์กู้ภัยของหน่วยซีล โดยกำหนดระยะแรกตั้งแต่วันที่ 18-20 มี.ค.นี้ รวมระยะเวลา 3 วันมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการการเก็บกู้ทรัพยากรกู้ภัยที่ตกค้างในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นผู้บัญชาการ แบ่งการปฏิบัติงานเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนอำนวยการ ทำหน้าที่บัชญาการ ประสานงานและควบคุมการปฏิบัติภารกิจในภาพรวม ส่วนปฏิบัติการ ทำหน้าที่ปฏิบัติภารกิจเก็บกู้อุปกรณ์ในถ้ำหลวง และบริเวณปากถ้ำ และส่วนสนับสนุนปฏิบัติภารกิจ จัดเตรียมอาหาร อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเก็บกู้ และยานพาหนะ

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฐมพยาบาล นำโดย แพทย์หญิง นิชานันท์ ศรีสุข พร้อมทีมพยาบาลโรงพยาบาลแม่สาย ร่วมกับทีมกู้ภัยสมาคมศิริกรณ์เชียงราย เตรียมพร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดกรณีมีผู้บาดเจ็บในการเก็บกู้ทรัพยากรในครั้งนี้ด้วย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานเก็บกู้ทรัพยากรตกค้างของเจ้าหน้าที่ในระยะแรกให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 20 มีนาคม 2562 ส่วนการปฏิบัติการเก็บกู้อุปกรณ์กู้ภัยตกค้างในถ้ำหลวงระยะที่ 2 จะดำเนินการระหว่างวันที่ 26-29 มี.ค.นี้ โดยทางอุทยานฯ จะออกประกาศต่อไป

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเที่ยวชมบริเวณอื่นโดยเฉพาะขุนน้ำนางนอน หรือสระน้ำมรกต ที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตรได้ตามปกติ
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ขอบคุณภาพข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
กำลังโหลดความคิดเห็น