xs
xsm
sm
md
lg

กรมชลฯ ปักป้ายสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมคลอง ทำชาวบ้าน 33 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อ่างทอง - ชาวบ้าน 33 ครอบครัว ครวญหลังชลประทานนำป้ายประกาศให้รื้อสิ่งปลูกสร้างชุมชนริมคลองชลประทาน หมู่ 4 ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก ภายใน 3 เดือน เผยได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่อยู่อาศัยกันมากว่า 30 ปี

วันนี้ (13 มี.ค.) ชาวบ้าน 33 ครอบครัว ที่ปลูกสร้างชุมชนอยู่ริมคลองชลประทาน หมู่ 4 ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก ได้รับความเดือดร้อน หลังจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ นำป้ายประกาศมาติดไว้ให้รื้อสิ่งปลูกสร้างชุมชนริมคลองชลประทาน และมีหนังสือส่งมาให้รื้อถอนบ้านออกภายใน 3 เดือน เนื่องจากบุกรุกที่สาธารณะ ส่งผลให้ชาวบ้าน 33 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่อยู่อาศัยกันมากว่า 30 ปี

โดยมีข้อความว่า “ประกาศกรมชลประทานมาตรา 23 และมาตรา 37 พระราชบัญญัติ การชลประทานหลวง 2485 ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้าง แก้ไขหรือต่อเติมสิ่งปลูกสร้างหรือปลูกปักสิ่งใดหรือกระทำการเพาะปลูกรุกล้ำทางน้ำชลประทาน ชานคลองเขตคันคลอง หรือเขตพนัง ที่อยู่ในครอบครองดูแลของกรมชลประทาน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ สำนักงานชลประทานที่ 12

นางช้วน ป้อมลอย วัย 72 ปี กล่าวว่า อาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 50 ปี จึงไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน ทุกวันนี้อาศัยรายได้จากการออกไปเก็บผักนำไปขายที่ตลาด พอมีรายได้มาประทังชีวิตและเลี้ยงดูลูกชายที่พิการ 2 คน ความเป็นอยู่ก็แสนลำบากหาเช้ากินค่ำ หากจะต้องย้ายก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนไม่มีหนทางไป

ส่วน นางทวาย โพธิ์ทอง อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 39/ง หมู่ 4 ตำบลป่าโมก บอกว่า ตนเองจะไม่ย้ายออกไปไหน และจะขอตายอยู่ในที่แห่งนี้ ซึ่งได้อยู่อาศัยมาหลายสิบปีตั้งแต่เป็นสาวๆ และมีครอบครัวก็ได้อยู่อาศัยในพื้นที่แห่งนี้มาตลอดเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัยจำเป็นต้องอยู่อาศัยต่อไปแม้โดนไล่ที่อยู่

เช่นเดียวกับ น.ส.น้ำอ้อย มาลัยทอง อายุ 45 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป บอกว่า ชาวบ้านที่นี่ถูกไล่ให้ออกจากพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ชลประทานเข้ามาแจ้งว่าจะดำเนินการจัดแบ่งและเก็บค่าเช่า สอดคล้องกับก่อนหน้าที่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาประชุมเพื่อออมเงินสร้างบ้านมั่นคงแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

กระทั่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นำป้ายประกาศขับไล่มาติดตั้งแทน ซึ่งตนเองและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เป็นผู้ยากไร้ ไม่มีที่อยู่อาศัย ได้มาปลูกเพิงสร้างที่อยู่อาศัยมานานหลายปีแล้ว หาเช้ากินค่ำอดมื้อกินมื้อ หากต้องถูกให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวนั้นก็ต้องเร่ร่อนไป วอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นใจ และอนุญาตให้อยู่อาศัยต่อไป

ด้าน นายจำนงค์ ธรรมสอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ กล่าวว่า ได้นำหนังสือไปแจ้งให้ชาวบ้านทั้งหมดรื้อถอนออกจากพื้นที่ชลประทาน ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการคืนพื้นที่ให้แก่กรมธนารักษ์ เพื่อดำเนินการจัดที่อยู่อาศัยให้แก่ชาวบ้านตั้งแต่ปี 2559 แต่ติดระเบียบของกรมธนารักษ์ที่ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ออกให้หมด

อีกทั้งยังได้รับหนังสือร้องเรียนส่งมาจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอ่างทอง โดยมีผู้มาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามภายในเดือนนี้จะมีการประชุมระหว่างกรมธนารักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงจังหวัด เพื่อกำหนดข้อสรุปแนวทางที่ชัดเจนต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น