ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าท่าแหลมฉบัง เข้มสั่งเก็บ ตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเลกว่า 23 ใบ จาก 72 ใบ หลังเรือภัทรมารีน 6 จม ตั้งแต่กลางปี 61 หวั่นเรือบรรทุกสินค้าชน ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 อาทิตย์
จากกรณีที่ เรือภัทรมารีน 6 ซึ่งเดินทางออกจาก ท่าเรือ B1 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปท่าเรือกรุงเทพ เกิดเสียการทรงตัวและจมลงที่ หรือบริเวณเกาะท้ายตาหมื่น อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ต.ท่าเทวงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี และเนื่องจากมีกระแสน้ำและลมพัดขึ้น ส่งผลให้เรือลำดังกล่าวจมน้ำไปพร้อมกับๆ ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 72 ตู้ ซึ่งภายในตู้คอนเทนเนอร์ พบเป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น แป้งสาลี ถั่วเหลือง โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มีการซากตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาแล้วกว่า 49 ตู้ และยังเหลืออยู่ใต้ทะเลอีก 23 ตู้
ล่าสดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้( 11 มี.ค.) นายพิทักษ์ วัฒนพงษ์ศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงพื้นที่ ไปสำรวจบริเวณจุดที่สแกนจนพบตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 23 ตู้ อยู่ใต้ทะเล โดยยะงอยู่ในรัศมีใกล้เคียงกับจุดที่เรือภัทรมารีน 6 จม หลังจากนั้นได้มีการสั่งการ ให้ยกตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 23 ตู้ ขึ้นมาบนเรือบาสโดยทันที
ด้านนายพิทักษ์ วัฒนพงษ์ศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง กล่าวว่า หลังจากที่เรือภัทรมารีน 6 จมลงทะเล บริเวณเกาะท้ายตาหมื่น อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ต.ท่าเทวงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ส่งผลให้เรือลำดังกล่าวจมน้ำไปพร้อมกับๆ ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 72 ตู้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านเก็บกู้ซาก ได้จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาแล้ว จำนวน 49 ตู้ และได้มีการนำส่งไปที่ท่าเรือกรุงเทพแล้ว
สำหรับตู้คอนเทนเนอร์อีกจำนวน 23 ตู้ ที่ยังคงตกค้างอยู่ใต้ทะเลนั้น เจ้าหน้าที่สำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเลได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน สแกนหาตู้คอนเทนเนอร์ใต้น้ำทะเล จนล่าสุดพบตำแหน่งที่แน่นอนของตู้คอนเทนเนอร์ที่จมหายแล้ว
หลังจากนั้นตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ดำเนินการจัดเก็บขึ้นจากน้ำทะเลโดยทันที เนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายแก่เรือ ที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะนำขึ้นมาวางไว้ที่บริเวณเรือบาส วันละประมาณ 3-4 ตู้ หลังจากนั้นก็จะนำไปจอดทอดสมองไว้ที่บริเวณเกาะท้ายตาหมื่น เพื่อหลีกเลี่ยง ผลกระทบทางด้านกลิ่นเหม็น แก่ชาวบ้าน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2 อาทิตย์นี้