ลำปาง - เจ้าภาพชาววังเหนือขึ้นโรงพักแจ้งจับอดีตทหารนอกราชการ-หนุ่มโคราช คู่หูกร่างเกินพิกัด-ลากปืนคนละกระบอกยิงกลางถนนติดป้อมยาม ตร.ป่วนงานแต่ง พบทำงานเฝ้าสวนนายพลอยู่เวียงป่าเป้า
วันนี้ (11 มี.ค.) นายเอกพล ดีงาม อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 189 บ้านปงวัง หมู่ที่ 3 ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายสมพร สูงขาว ผู้ใหญ่บ้านปงวัง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เกษม กริยา รอง ผกก.สภ.วังเหนือ เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีชายสองคนที่พกอาวุธปืนเข้าก่อเหตุยิงป่วนงานแต่งงานลูกสาวจนแขกที่มาภายในงานหวาดกลัว บางคนถึงกับรีบหนีกลับบ้าน และเกือบจะเกิดเหตุร้ายในงานมงคล เมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้งานเลี้ยงต้องล้มเลิกไปโดยปริยายเนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบทะเบียนราษฎร และทราบชื่อผู้ก่อเหตุทั้งสองรายแล้ว รายแรกชายสวมเสื้อเขียว คือ จ.ต.พิชชญะ นิธิพุทธางกูร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/13 เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ทหารนอกราชการ ส่วนชายที่สวมเสื้อสีขาวคือ นายทองหล่อ ฉิมสันเทียะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 อ.เมืองนครราชสีมา
เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ 1. มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ยิงปืนในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.อภิรักษ์ นักไร่ ผกก.สภ.วังเหนือ พร้อมชุดสืบสวน ทหารจากค่ายมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปาง ได้นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านงานแต่งงานประมาณ 20 เมตร และยังอยู่ตรงข้ามกับป้อมยามตำรวจหรือที่ทำการสายตรวจ ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ด้วย
จากการสอบถาม นางแสงนภา ดีงาม แม่เจ้าสาว ได้เล่าให้ฟังว่า ทางเจ้าภาพไม่มีใครเชิญบุคคลทั้ง 2 มาร่วมงาน แต่เป็นคนนอกที่เข้ามากับเพื่อนบ้าน ซึ่งตนเองก็ต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่ก็มาป่วนงาน และเข้ามาหาเรื่องแขก เพื่อนร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านปงวังทั้งสิ้นจนเกิดความวุ่นวายขึ้น
ขณะที่นายอนุพงษ์ พันธุ์ดี (นุ) หนึ่งในแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและเป็นผู้พิการ บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนก็นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านงานแต่งงาน อยู่ดีๆ ชายทั้งสองคนก็เข้ามาหาเรื่องด้วยการบีบคอตน และถามตนว่าใครมีปัญหาอะไรไหม ใครข้องใจอะไรก็เข้ามาถามได้ และยังบอกว่าตนทั้งสองคนมีปืน ใครจะมาใหญ่แถวนี้ไม่ได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร
หลังจากนั้นก็เห็นว่าชายทั้งสองคนก็เข้าไปหาเรื่อง และเต้นบนเวทีงานแต่งงานในงาน จากนั้นก็ออกมาอาละวาดชักปืนยิงกลางถนนใกล้ๆ กับที่พักสายตรวจตำบลวังทรายคำ และมีชาวบ้านถ่ายคลิปวิดีโอไว้ดังกล่าว
ด้านนายสมพร สูงขาว ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านปงวัง เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุตนก็ได้ไปร่วมงานแต่งดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่ออกมาก่อนที่จะเกิดเรื่องเพราะต้องไปร่วมงานอื่นในหมู่บ้านด้วย หลังจากนั้นลูกบ้านได้โทรศัพท์แจ้งว่ามีเหตุที่บ้านงานแต่งงาน ตนจึงได้สอบถามกับทางเจ้าภาพ ก็ได้ความว่าเมื่อคืน ซึ่งเป็นงานเลี้ยงแต่งงาน ชาวบ้านต่างก็มาร่วมงาน มีการร้องเต้นบนเวทีกันอย่างสนุกสนาน
ส่วนผู้ที่มาก่อเหตุไม่มีใครรู้จัก เพราะมีเพื่อนบ้านที่อยู่คนละหมู่บ้านคือ บ้าน ม.6 ชื่อนายอุทัย (โจ) เครือบุปผา พามาเที่ยวด้วย และก็ได้พามาแนะนำให้เจ้าภาพ โดยขณะนั้นมีเพียงลูกสาวและลูกเขยเป็นคนต้อนรับแขก ซึ่งก็ได้เชิญให้เข้าไปนั่งในงานดื่มกินกันตามประสาคนบ้านนอก ใครมาก็ต้องต้อนรับแม้จะไม่รู้จักก็ตาม
ซึ่งทั้งสองยังขึ้นไปร่วมเต้นรำบนเวที แต่จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากงานโดยไม่ทราบสาเหตุ และมาที่ถนนแล้วก็มีการแสดงความไม่พอใจ ซึ่งก็คาดว่าอาจจะเป็นเพราะขณะที่นั่งในงาน เด็กๆ ที่มานั่งด้วยไม่ยอมนั่งต่อ และปล่อยให้ทั้งคู่กับเพื่อนนั่งอยู่ตามลำพัง จนทำให้ทั้งสองคนไม่พอใจเดินออกจากงานและมาก่อเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเพื่อนของทั้งคู่คือนายโจที่อยู่คนละหมู่บ้าน และเป็นผู้ชักชวนชายทั้งสองคนมาเที่ยวงานแต่งงาน ทราบเพียงว่ารู้จักกันเพียงผิวเผิน นานๆ ทีที่ทั้งคู่จะมาเที่ยวหา และรู้ว่าทั้งคู่เฝ้าบ้านกับสวนให้นายพลนายหนึ่งที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เท่านั้น
